Page 269 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 269

ตารางวิเคราะห์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต ารวจละเมิดสิทธิมนุษยชนจ านวน 109 คดี

                                                     ความเห็นคณะกรรมการสิทธิฯ           ความเห็นของคณะผู้วิจัย
                     พฤติการณ์โดยย่อ (ผู้วิจัยสรุป)
                                                                 ข้อเสนอแนะของผู้
                                                 ความเห็นผู้ตรวจสอบ               ความเห็น    ประเภทที่ละเมิด สาเหตุการละเมิด
                                                                   ตรวจสอบ
            1. เมื่อวันดังกล่าว เวลาประมาณ ๐๖๐๐-๒๐๐๐ น. ได้มีการจัดเวที  คณะกรรมการได้มีความเห็นว่าการ  -  เป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพใน  1. เสรีภาพใน  1.1 เจตนาหรือจง
            อภิปรายแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ขององค์กรครูอิสานซึ่งต่อมาได้ถูก  กระทําดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการ  การแสดงความคิดเห็นและในการ  ร่างกาย  ใจหรือลุแก่
            เจ้าหน้าที่ตํารวจนอกเครื่องแบบประมาณ ๕๐ นาย และใน  ขัดขวางเสรีภาพ ในการแสดงความ  ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ  อํานาจหรือใช้
            เครื่องแบบประมาณ ๔๐-๕๐ นายพูดจาข่มขู่คนงานจัดเวทีว่าให้ขน คิดเห็นการพูดซึ่งผิดต่อรัฐธรรมนูญ  ตาม รธน.มาตรา 45 และ 63  อํานาจเกินขอบเขต
            ของกลับไปและห้ามมิให้มายุ่งอีกโดยอ้างว่าวันนี้จัดอภิปรายไม่ได้  มาตรา ๓๘ อีกทั้งผิดกติการะหว่าง   ไม่ปฏิบัติหน้าที่
            เพราะผู้ใหญ่สั่งไม่ให้จัด        ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ                              ตามกฎหมาย
            2. ต่อมาก็ได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ทราบว่าหน่วยงานไหนได้ตัด  สิทธิทางการเมืองอีกด้วยจึงถือว่า  1.2 ขาดความรู้
            กระแสไฟฟ้าที่จ่ายจากเสาไฟเข้าเวทีและได้นํากุญแจไปล็อก  การกระทําดังกล่าวเป็นการละเมิด      และความเข้าใจ
            ห้องน้ําสาธารณะรวมทั้งได้มีเจ้าหน้าที่ตํารวจในเครื่องแบบกับพวก สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน     หลักกฎหมาย
            รวม ๕๐ คน ได้มาตั้งด่านโดยนําแผงเหล็กมากั้นบริเวณ                                          ระเบียบ คําสั่ง
            ทางเข้าออกสวนสาธารณะเพื่อไม่ให้ผู้ร่วมอภิปรายเข้าร่วมชุมนุม                                และข้อบังคับอย่าง
            3. ซึ่งต่อมาหลังจากนั้นก็ได้มีการขึ้นมาแย่งไมค์ผู้ร้องแล้วไปพูดขู่ว่า                      เพียงพอ
             "คุณพูดว่าอะไรผม เดี๋ยวเจอดีแน่"


            1. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลาประมาณ 1630น. ขณะที่ผู้ร้อง  เห็นว่าการกระทําดังกล่าวของ  -  1.เห็นว่าวิธีการจับของเจ้าพนักงาน 1. การจับ  1.1 เจตนาหรือจง
            จอดรถอยู่บริเวณสี่แยก ได้มีชายฉกรรจ์  ๒คนไม่ทราบชื่อ ไม่สวม  เจ้าหน้าที่นั้นผู้ร้องมีหลักฐานยืนยัน  ตํารวจเป็นการจับโดยมิชอบด้วย  ใจหรือลุแก่
            เครื่องแบบได้ใช้อาวุธปืนจี้ บังคับผู้ร้องและได้ใส่กุญแจมือโดยพาผู้ จากแพทย์ร่วมทั้งคําเบิกความของ  กฎหมาย ส่วนการทําร้ายร่างกาย  อํานาจหรือใช้
            ร้องขึ้นรถไปจอดป่าข้างทางจากนั้นได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่ตํารวจนั้น  ก็ให้การมีพิรุธ  โดยการปิดตาและนําถุงคลุมศรีษะ  อํานาจเกินขอบเขต
            ตํารวจและได้ขอทําการตรวจค้นรถผู้ร้องโดยอ้างว่าสงสัยว่ามียา  ขัดต่อเหตุผลดังนั้นข้อต่อสู้ประเด็น  และต่อยท้องเพื่อบังคับให้รับ   ไม่ปฏิบัติหน้าที่
            เสพติดซ่อนอยู่                   ดังกล่าวขอผู้ร้องฟังขึ้น       สารภาพ ก็ไม่มีบทบัญญัติของ  ตามกฎหมาย
            2. ต่อมาพอค้นไม่พบจึงได้พาผู้ร้องไปที่ค้นต่อที่บ้านของผู้ร้องแต่ก็  กฎหมายให้กระทําได้  2. ทําร้ายร่างกาย 2.1 เจตนาหรือจง
            ไม่พบอีก                                                        2. การทําร้ายร่างกาย และทรมาน  ใจหรือลุแก่
            3. หลังจากนั้นก็ได้พาผู้ร้องไปที่บ้านพักหลังหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้  ดังกล่าวนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิ  อํานาจหรือใช้
            ผ้าปิดตาผู้ร้องและได้บังคับผู้ร้องให้รับสารภาพโดยต่อยที่ท้องอย่าง  มนุษยชน                 อํานาจเกินขอบเขต
            รุนแรงเป็นเวลานานกว่า ๑๐ นาทีจนผู้ร้องเลือดออกทางปากและ                                     ไม่ปฏิบัติหน้าที่
            จมูก                                                                                       ตามกฎหมาย
            4. จากนั้นจับผู้ร้องแขวนกับกุญแจมือแล้วนําถุงพลาสติกมาครอบ
            ศรีษะพร้อมทั้งเตะและต่อยที่ท้องจนผู้ร้องปัสสาวะและอุจจาระ
            ออกจึงหยุด และได้ขู่อีกว่าถ้าผู้ร้องไม่ยอมรับสารภาพจะนําไปยิงทิ้ง
             ผู้ร้องกลัวจึงยอมรับสารภาพ
   264   265   266   267   268   269   270   271   272   273   274