Page 94 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 94
๘๕
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
เลยหากประเทศสมาชิกไม่ให้ความส าคัญและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ปรับปรุง และยกระดับ
มาตรฐานการคุ้มครองให้ทัดเทียมกัน และด้วยปัจจัยส าคัญที่ได้กล่าวมา คือสถานการณ์ในประเทศ
เมียนมาร์ ซึ่งเป็นประเทศต้นทางของผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ในประเทศมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และ
การเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ประเทศสมาชิกแต่ละ
ประเทศตื่นตัวเรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น หน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งรับบทบาทเป็นผู้วางแผนและ
ปฏิบัติการตามนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศไทย รักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน
และรับหน้าที่ในการดูแลผู้ลี้ภัยในพื้นที่ก็ควรปรับบทบาทให้ทันต่อบริบทของสังคม
การผลักดันผู้ลี้ภัยให้ออกนอกประเทศนั้นไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เพราะแม้จะผลักดันกลับ
ออกไป สถานการณ์ความไม่ปลอดภัยก็จะบีบบังคับให้ต้องเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยอีก ประเทศ
ไทยจึงควรก าหนดหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่ชัดเจนในการให้ความคุ้มครองชั่วคราวแก่ผู้ลี้ภัยโดยสร้างให้
เกิดความสมดุลระหว่างหลักสิทธิมนุษยชนกับแนวคิดความมั่นคง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเสถียรภาพ
ทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในประเทศเมียนมาร์ซึ่งเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ
ที่ยั่งยืน
ดังนั้น โดยค านึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน หลักความมั่นคงมนุษย์ ความเปลี่ยนแปลงในประเทศ
เมียนมาร์ และการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทยมีความจ าเป็นจะต้องมีบทบัญญัติ
ที่ก าหนดให้มีการพิจารณาสถานการณ์ของประเทศต้นทาง และพยายามแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหา
อย่างยั่งยืน โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และประเทศเมียนมาร์ เพื่อพัฒนาสถานการณ์ใน
ประเทศเมียนมาร์ให้ดีขึ้น ยุติการสู้รบ และตระหนักถึงความส าคัญของการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของ
บุคคล
๔.๔ บทบาทของภาคประชาสังคมในการคุ้มครองสิทธิของผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ
ภาคประชาสังคมนั้นสามารถมีส่วนช่วยในการเดินทางกลับประเทศของผู้ลี้ภัย เพื่อให้เดินทาง
กลับนั้นปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี โดยการเดินทางกลับอย่างมีศักดิ์ศรี หมายถึง ผู้ลี้ภัยจะต้องไม่ถูกบังคับให้
เดินทางกลับในลักษณะที่ผลักไส ใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่ของประเทศต้นทางควรให้การยอมรับผู้ลี้ภัยที่