Page 136 - การรวบรวมและวิเคราะห์เปรียบเทียบรายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำ ชายฝั่ง แร่และสิ่งแวดล้อม ในอนุคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (พ.ศ.2544-2550)
P. 136

บทที่ 5

                                             รวบรวมองค์ความรู้จากการตรวจสอบ


                          จากการศึกษารายงานการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการฯท าให้เห็นถึงวิธีการตรวจสอบ การใช้หลัก
                   กฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน มาใช้ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเพื่อมีความเห็นต่อเรื่อง ซึ่งมีความแตกต่างกัน
                   ไปตามกรณี แต่หลักกฎหมายที่น ามาใช้เกือบทุกกรณี ก็คือ หลักตามรัฐธรรมนูญ และหลักสิทธิมนุษยชน และมี
                   ความเห็นแต่ละกรณีที่แตกต่างกันไป ท าให้เกิดองค์ความรู้และความคิดเห็นในเชิงสิทธิมนุษยชนที่ส าคัญ ควรแก่การ

                   ได้น ามาสรุปไว้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนี้

                   5.1 องค์ความรู้ทางหลักสิทธิมนุษยชน
                                                                                  ั่
                          รายงานการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน ้า ชายฝง แร่ และสิ่งแวดล้อม พบว่า การ
                   ตรวจสอบเป็นไปโดยอาศัยอ านาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิ
                   มนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งปรากฏในการอ้างถึงบทบัญญัติที่ส าคัญตามล าดับได้แก่
                          1)     รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช  2540 มาตรา 4  ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ

                   และเสรีภาพของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง และ มาตรา 200 ที่กล่าวถึงอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิ
                   มนุษยชนแห่งชาติ นี้เป็นหลักการพื้นฐานในกระบวนการท างาน
                          2)     พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาตรา 3 ก าหนดความหมาย “สิทธิ
                   มนุษยชน” หมายความว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการรับรอง
                   หรือคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือตามสนธิสัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติ
                   ตาม ดังนั้นการคุ้มครองสิทธิในการตรวจสอบจึงเป็นไปตามการอ้างถึงหลักตามรัฐธรรมนูญและสนธิสัญญาต่างๆ นี้

                   เป็นกลไกพื้นฐานที่ใช้ตรวจสอบ
                          โดยหลักการตามสนธิสัญญาที่ถูกอ้างถึงในรายงานได้แก่
                                   กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยเข้า

                                     เป็นภาคีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2539
                                 ข้อ 1  สิทธิในการก าหนดวิถีชีวิตตนเอง
                                 ข้อ 1 ย่อย ก าหนดว่า ประชาชนทั้งปวงมีสิทธิในการก าหนดเจตจ านงของตนเอง โดยอาศัยสิทธิ
                   นั้น ประชาชนจะก าหนดสถานะทางการเมืองของตนอย่างเสรี รวมทั้งด าเนินการอย่างเสรีในการพัฒนาเศรษฐกิจ
                   สังคม และวัฒนธรรม
                                 ข้อ 2 ย่อย ก าหนดว่า เพื่อจุดมุ่งหมายของตน ประชาชนทั้งปวงอาจจัดการโภคทรัพย์และ

                   ทรัพยากรธรรมชาติของตนได้อย่างเสรี โดยไม่กระทบต่อพันธกรณีใดๆ อันเกิดจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
                   ระหว่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการแห่งผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน และกฎหมายระหว่างประเทศ
                   ประชาชนจะไม่ถูกลิดรอนจากวิถีทางแห่งการยังชีพของตนไม่ว่าในกรณีใดๆ
                                 ข้อ 3 ย่อย ก าหนดว่า รัฐภาคีแห่งกติกาฉบับนี้ รวมทั้งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารดินแดนที่ไม่ได้
                   ปกครองตนเองและดินแดนในภาวะทรัสตี จะส่งเสริมสิทธิในการก าหนดเจตจ านงของตนเองให้บรรลุผลเป็นจริง และ

                   ต้องเคารพสิทธินั้นตามบทบัญญัติแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ
                                 ข้อ 47   จะตีความกติกานี้ในทางที่เสื่อมสิทธิที่มีมาแต่ก าเนิดของปวงชนในอันที่จะอุปโภคและ
                   ใช้ประโยชน์โภคทรัพย์และทรัพยากรธรรมชาติอย่างเต็มที่และเสรีมิได้






                                                              121
   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141