Page 113 - การรวบรวมและวิเคราะห์เปรียบเทียบรายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำ ชายฝั่ง แร่และสิ่งแวดล้อม ในอนุคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (พ.ศ.2544-2550)
P. 113
ตารางที่ 4.2 ตัวอย่างบางส่วนของรายงานที่แสดงถึงสิทธิในการก าหนดวิถีชีวิตและการประกอบอาชีพ
เรื่อง : การคัดค้านนโยบายการแบ่งเขตประมงจังหวัด และโครงการธนาคารอาหารทะเลในอ่าวพังงา
ความเป็นมา : ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายในการจัดการระบบทรัพยากรประมงใหม่ โดยให้มี
การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลเป็นรายจังหวัดนั้น นโยบายดังกล่าวมีผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ
และวิถีชีวิตของชุมชนประมงในพื้นที่อ่าวพังงา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด คือ จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่
ความเห็น :
แถลงการณ์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เรื่อง ข้อเสนอแนะต่อโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (SEA FOOD BANK)
๒ กันยายน ๒๕๔๘
ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้มีการด าเนินโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน โดยมีหน่วยงาน
ภาครัฐที่รับผิดชอบหลายหน่วยงาน ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมประมงได้มีโครงการ SEA FOOD BANK เกิดขึ้น โดยมี
ั
วัตถุประสงค์เพื่อที่จะจัดที่ท ากินให้แก่ประชาชนในการแก้ไขปญหาความยากจน สร้างฐานการผลิตอาหารทะเลทดแทนจากการ
จับจากธรรมชาติ สร้างระบบการผลิตอาหารทะเลที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และเพื่อจัดระบบการผลิตสัตว์น ้าให้แก่
้
ประชาชน กลุ่มเปาหมายจ านวน ๒๔๘,๔๙๒ ไร่ เพื่อน าไปสู่การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในการส่งออก นอกจากนี้ ยังได้มี
้
การจัดระบบเกษตรภายใต้สัญญาจ้าง (Contact Farming) เพื่อสนับสนุนการเพาะเลี้ยงสัตว์น ้าให้กลุ่มเปาหมายอีกด้วย
.....................................................
ก. การแปลงสิทธิประโยชน์ในทะเลสาธารณะมาเป็นสิทธิของบุคคลแทน ย่อมสร้างผลกระทบบั่นทอน
ท าลายต่อสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญในการใช้ประโยชน์ร่วมกันในทะเลสาธารณะโดยสงบสันติมาดั้งเดิม เป็นความขัดแย้ง และ
สร้างความแตกแยกในการใช้ระหว่างบุคคลที่ได้รับสิทธิใหม่ กับชุมชนผู้ใช้ประโยชน์เดิม
ข. การท าระบบเกษตรภายใต้สัญญาจ้าง (Contact Farming) ย่อมเปลี่ยนฐานะจากเกษตรที่ประกอบ
อาชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นการเกษตรแบบภายใต้ก ากับการบริหารจัดการของบริษัททุนการเกษตร ย่อมมีแนวโน้ม
ของการล่มสลายในอาชีพ เฉกเช่น การเลี้ยงกุ้งกุลาด า การเลี้ยงไก่ เป็นต้น อีกทั้งสิทธิในทะเลสาธารณะในอนาคตย่อมตกในมือ
ของทุนต่อไปในอนาคต ซึ่งขัดแย้งต่อหลักการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ค. ถึงแม้จะมีการจัดอบรมตามหลักสูตรที่ก าหนดให้แก่บุคคลที่ได้รับสิทธิใหม่ก็ตาม หากแต่บุคคล
ั
ดังกล่าวไม่เคยประกอบอาชีพมาก่อนย่อมมีความเสี่ยงสูง ผิดกับประมงพื้นบ้าน ที่เลี้ยงอยู่เดิม ย่อมมีภูมิปญญาในการจัดการ
อย่างยั่งยืนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ดังนั้น ด้วยเหตุผลข้างต้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงขอเสนอแนะนโยบายต่อโครงการดังกล่าว
ั
เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ดังนี้
๑. เพื่อให้ประมงพื้นบ้านกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง และเป็นไปในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
รัฐบาลควรมีแนวนโยบายในการจัดการอย่างยั่งยืน มิให้มีการน าเครื่องมือประมง ซึ่งแย่งชิงทรัพยากรอย่างรุนแรงของเรืออวนรุน เรือ
ั่
อวนลาก ตลอดจนเรือปนไฟปลากะตัก อันเป็นผลให้ประมงพื้นบ้านมีรายได้ลดน้อยลงอย่างมาก จนต้องตกอยู่ในฐานะยากจน
่
่
๒. ให้รัฐบาลจัดการกับผู้บุกรุกและท าลายปาชายเลน และด าเนินการฟื้นฟูปา ชายเลน อันเป็นแหล่งผลิต
และอนุบาลสัตว์น ้าโดยด่วน เพื่อเป็นการอนุรักษ์ฐานทรัพยากร อันประเมินค่ามิได้ของชาติ รวมทั้งเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่
ประมงพื้นบ้านอีกทางหนึ่งด้วย
คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน ้า ชายฝั่ง และแร่ พิจารณาแล้วเห็นว่า
๓.๑ นโยบายนี้เป็นตัวอย่างของโครงการที่เมื่อพิจารณาโดยผิวเผินจะเห็นว่าเป็นโครงการที่หวังดี แต่หาก
ั่
พิจารณาโดยละเอียดจะพบว่า จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝง และวิถีชีวิตชุมชนอย่างร้ายแรง และ
ั่
อาจจะน าไปสู่การครอบครองที่ดินชายฝงและในผืนทะเลโดยนายทุนและชาวต่างชาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
๓.๒ โครงการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน และนโยบายของรัฐที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
อาจส่งผลกระทบต่อชุมชน
98