Page 53 - พระมหากษัตริย์กับงานสิทธิมนุษยชน
P. 53

“ผลอีกอย่างหนึ่งซึ่งสำาคัญมาก ก็คือ ชาวเขาตามที่รู้เป็นผู้ที่ทำาการเพาะปลูก
                      โดยวิธีที่จะทำาให้บ้านเมืองของเราไปสู่หายนะได้ โดยที่ถางป่าและปลูกโดยวิธีที่ไม่

                      ถูกต้อง ถ้าพวกเราทุกคนไปช่วยเขา ก็เท่ากับช่วยบ้านเมืองให้มีความดี ความอยู่ดีกินดี
                      และปลอดภัยได้อีกทั่วประเทศ เพราะสามารถทำาโครงการนี้ได้สำาเร็จ ให้ชาวเขาอยู่
                      เป็นหลักเป็นแหล่ง สามารถที่จะมีความอยู่ดีกินดีพอสมควรและสนับสนุนนโยบายที่

                      จะรักษาป่าไม้ รักษาดินให้เป็นประโยชน์ต่อไป ประโยชน์อันนี้จะยั่งยืนมาก”

                      เมื่อพระองค์ทอดพระเนตร พระองค์ทรงห่วงใยและทรงพยายามหาวิธีทางแก้ไข พระองค์
               จึงเสด็จพระราชดำาเนินเยี่ยมราษฎรชาวเขาและผ่านหมู่บ้านชาวเขาบนดอยปุย ทอดพระเนตรเห็น

               ต้นท้อพื้นเมือง จึงทรงทราบว่าชาวเขาดอยปุยนอกจากจะปลูกฝิ่นขายเป็นรายได้แล้วยังปลูกต้นท้อ
               อีกด้วย จึงมีพระราชดำาริว่าควรพลิกพื้นที่ไร่ฝิ่นให้เป็นไร่ท้อ และควรจะนำาต้นท้อจากต่างประเทศ

               มาขยายพันธุ์ด้วยวิธีติดตาต่อกิ่งกับต้นท้อพันธุ์พื้นเมือง เพื่อนำาผลท้อไปขายเป็นรายได้เสริมให้
               มากยิ่งขึ้น  และในขณะเดียวกันเบี่ยงเบนให้ชาวเขาลดความสนใจในการปลูกฝิ่นลง  พระองค์
               พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์แก่วิทยาลัยเกษตรศาสตร์  จังหวัดเชียงใหม่  ทำาการ

               วิจัยเพาะปลูกผลไม้เมืองหนาว ซึ่งได้ซื้อที่ดินสวนสองแสน ใกล้กับพระตำาหนักภูพิงคราชนิเวศน์
               ทำาการวิจัย ทดลอง บนดอยอ่างขาง เพื่อพระราชทานความรู้ที่ได้วิจัยมาถ่ายทอดให้กับชาวเขา

               นำามาพัฒนาอาชีพตามภูมิทัศน์  ภูมิสังคม  เป็นการให้การศึกษาอย่างตรงสภาพความเป็นจริง
               พัฒนาได้สัมฤทธิผล










































                                                  พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น  53
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58