Page 56 - พระมหากษัตริย์กับงานสิทธิมนุษยชน
P. 56

ปัจจุบันมีโครงการหลวงขยายเป็นกิจการ ๓๔ สาขา ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย
               แม่ฮ่องสอน ลำาพูน พะเยา และน่าน  สามารถครอบคลุมหมู่บ้าน ประมาณ ๒๙๔ หมู่บ้าน และครอบครัว

               ๑๔,๐๙๘ ครอบครัว เพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่น ซึ่งมีการรณรงค์เรื่องการฟื้นฟูสภาพติดยาขึ้นที่
               หนองหอยเป็นแห่งแรก และมีการสร้างโรงเรียนชายแดนขึ้น มีการจัดตั้งธนาคารข้าวในหลายหมู่บ้าน
               เพื่อช่วยเหลือตนเอง และจัดตั้งโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง ขนาดเล็ก ๓ แห่งที่จังหวัดเชียงใหม่

               และเชียงราย เพื่อแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของชาวไทยภูเขาออกสู่ตลาด ด้วยพระปรีชาสามารถ
               ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำาให้มีโครงการหลวงขึ้น และในพุทธศักราช ๒๕๓๑ โครงการหลวง

               จึงได้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ สาขาความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ ทำาให้ทั่วโลกได้ตระหนัก
               ในพระปรีชาสามารถของพระองค์







































                      โครงการหลวงนั้นได้ให้ประโยชน์ไปยังหมู่บ้านชาวไทยภูเขาประมาณ  ๓๐๐  แห่ง  มี

               สถานีดำาเนินการ ๓๔ แห่ง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการหลวงประมาณ ๑๔,๐๙๘ ครอบครัว ทำาให้มีความ
               เป็นอยู่ดีขึ้นตามพระราชประสงค์ โดยเฉพาะการปลูกพืชผัก ผลไม้เมืองหนาว และกาแฟ นั้นได้เข้าไป

               ทดแทนที่ทำาให้การปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขาที่ทำามาแต่เดิมนั้นลดลงถึงร้อยละ ๘๕ ปัจจุบันนี้ผลผลิต
               จากโครงการหลวงได้นำาออกสู่ตลาดอย่างแพร่หลาย

                      ชาวเขาในท้องถิ่นต่างๆ  ของภาคเหนือเปลี่ยนวิถีชีวิตทิ้งฝิ่นหันมาปลูกพืชเมืองหนาว

               เพื่อยังชีพภายใต้การดูแลของนักวิชาการเกษตรของโครงการหลวงที่คอยให้คำาแนะนำา ภาพลักษณ์
               และความเป็นอยู่ของชาวเขาดีขึ้นอย่างน่าปลื้มปีติเป็นล้นพ้น



              56     พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61