Page 13 - การรวบรวมและวิเคราะห์เปรียบเทียบ รายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำ ชายฝั่ง แร่ และสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (พ.ศ. 2545 - 2550) : (รายงานหลัก)
P. 13
และประชาชน มักจะไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด นอกจากนี้การก าหนดค่าภาคหลวงแร่
ส าหรับกิจการบางประเภทต ่ามาก เช่น ทองค า ไม่คุ้มค่าต่อทรัพยากรอันมีค่าที่ใช้แล้วหมดไป
3) การออกเอกสารสิทธิ์ภายหลังจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ ขาดการตรวจสอบจากค า
ขอประทานบัตร ว่าที่ดินที่ขออนุญาตประกอบกิจการเหมืองแร่เดิม เป็นที่ดินของรัฐหรือที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์
อยู่แต่เดิมก่อนประกอบกิจการ
4) กิจการดูดทรายบกและทรายแม่น ้าขาดการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และในการก าหนด
แนวเขตที่อนุญาตให้มีการดูดทราย ไม่มีการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมถึงขาดการแสดงแผนผังแนวเขตที่ได้รับ
ั
อนุญาตในบริเวณที่ประกอบกิจการให้ชัดเจน และพบปญหาการดูดทรายในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง อาจส่งผล
กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของจังหวัดอื่น นอกจากนี้ผู้ประกอบการดูดทรายมักกระท าความผิดโดยการ
ถมทรายในท่าทรายรุกล ้าล าน ้า
กรณีปัญหาด้านพลังงาน และมลพิษอุตสาหกรรม
้
1) ในการจัดท าแผนพัฒนาก าลังผลิตไฟฟา (Power Development Plan - PDP) มักค านวณอยู่
บนฐานของข้อมูลที่เป็นฐานความคาดการการเติบโตของเศรษฐกิจที่มักท าให้เกิดภาวะความต้องการสูงโดย
ขาดการถ่วงดุลจากสถานการณ์ด้านอื่นๆ เช่น ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และความเหมาะสมในการประหยัด
้
้
พลังงานในภาวะโลกร้อน และแผนพัฒนาก าลังผลิตไฟฟาส่วนใหญ่เน้นการการก่อสร้างโรงไฟฟาขนาดใหญ่ที่
้
ใช้ถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มากกว่ามุ่งพัฒนาใช้มาตรการการจัดการด้านการใช้ไฟฟา
(Demand Side Management - DSM) และพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ลม ก๊าซชีวภาพ ชีวมวล
้
พลังน ้าขนาดเล็ก และโรงไฟฟาขนาดเล็ก (Small Power Plant - SPP)
้
้
2) ในการคัดเลือกผู้ผลิตไฟฟาเอกชน มี 2 ขั้นตอนที่ส าคัญ คือ การคัดเลือกผู้ผลิตไฟฟาเอกชนเข้า
้
้ ่
้
ร่วมโครงการ และการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟาระหว่างผู้ผลิตไฟฟาเอกชนกับการไฟฟาฝายผลิตแห่งประเทศ
้
ไทย แม้การคัดเลือกผู้ผลิตไฟฟาเอกชนดังกล่าว จะได้พยายามให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมโดยก าหนดให้
รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการ ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม
้
แห่งชาติก่อนการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟา เพราะเห็นว่าในการจัดท ารายงาน EIA ได้ก าหนดหลักการมีส่วน
ร่วมของประชาชนในการตัดสินใจการด าเนินโครงการไว้อยู่แล้ว แต่การมีส่วนร่วมของประชาชนในกรณีนี้ จะ
้
เกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ผลิตไฟฟาเอกชนดังกล่าวได้ผ่านการคัดเลือกในขั้นตอนแรกแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าโครงการ
้
้
ก่อสร้างโรงไฟฟาของผู้ผลิตไฟฟาเอกชนรายนั้นได้รับการตัดสินใจให้ก่อสร้างไปแล้ว การพิจารณารายงาน
้
EIA ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก่อนลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟา จึงเท่ากับเป็นเพียงการรับรอง
้
การมีส่วนร่วมของประชาชนที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้มีการตัดสินใจก่อสร้างโรงไฟฟาในพื้นที่แล้ว
้
3) โครงการโรงไฟฟาขนาดเล็กที่มีก าลังการผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ไม่อยู่ในประกาศที่ต้อง
้
จัดท ารายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโรงไฟฟาดังกล่าวก็ได้ก่อให้เกิด
ผลกระทบต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง
4) พบกรณีโรงงานอุตสาหกรรมที่ด าเนินการก่อสร้างก่อนได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ
โรงงาน
5) ในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมอยู่แล้ว และอาจจะมีการก่อสร้างโรงงาน
อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอีกนั้น ไม่มีการศึกษาความสามารถในการรองรับมลพิษในพื้นที่นั้นในภาพรวมก่อนที่จะ
ั
อนุญาตให้มีการก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมท าให้เกิดปญหาการเกิดมลพิษสะสมมากกว่าเงื่อนไขตามรายงานของ
แต่ละโรงงานนอกจากนี้การติดตามตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมมีก าลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ท าให้กรณี