Page 336 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 336
ข้อ ๓ ในการพิจารณาคัดเลือกบุคลากรเพื่อเข้ารับการฝึกอบรม ให้พิจารณาจากผู้ที่ด ารง
ต าแหน่งและหรือปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับเนื้อหาการฝึกอบรม รวมถึงการ
น าความรู้ไปสู่การปฏิบัติงานตามภารกิจ หน้าที่และอ านาจของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
กรณีมีผู้แสดงความประสงค์เข้ารับการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์การพิจารณาตามวรรคหนึ่งมากกว่า
จ านวนที่ก าหนด ให้พิจารณาคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรมตามล าดับอาวุโส โดยมีการจัดล าดับ ดังนี้
(๑) ผู้ที่ด ารงต าแหน่งสูงกว่า ถือว่าเป็นผู้อาวุโสกว่า
(๒) ถ้าเป็นผู้ด ารงต าแหน่งในระดับเดียวกันหรือเทียบเท่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่ง
ในระดับนั้นก่อน ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
(๓) ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งในระดับเดียวกันหรือเทียบเท่าพร้อมกัน ผู้ใดได้รับ
เงินเดือนมากกว่า ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
(๔) ถ้าเป็นผู้ได้รับเงินเดือนเท่ากัน ผู้ใดมีอายุราชการมากกว่า ถือว่าผู้นั้นอาวุโสกว่า
ในการพิจารณาบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรที่มีพนักงานราชการและหรือลูกจ้าง
เป็นผู้มีคุณสมบัติและประสงค์เข้ารับการฝึกอบรม ให้ค านึงถึงการจัดสรรจ านวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม
ส าหรับกลุ่มบุคลากรดังกล่าว โดยพิจารณาถึงความเกี่ยวข้องสอดคล้องของหลักสูตรกับภารกิจงาน
ในความรับผิดชอบของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นส าคัญ
ข้อ ๔ บุคลากรที่ได้รับอนุมัติให้เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรที่จัดโดยหน่วยงานภายนอก
ต้องจัดท ารายงานผลการเข้ารับการฝึกอบรมเสนอผู้บังคับบัญชาตามล าดับชั้นจนถึงเลขาธิการภายใน
หกสิบวัน นับแต่วันที่เดินทางกลับถึงส านักงาน
ข้อ ๕ กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้เลขาธิการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ค าวินิจฉัยของเลขาธิการให้เป็นที่สุด
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
บุญเกื้อ สมนึก
รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน
เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
327
