Page 193 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 193
ส่วนที่ ๒ ข้อ ๔๐ การคัดเลือกอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๓๙ (๒) ให้เลขาธิการเสนอบัญชีรายชื่อ
การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ผู้สมควรเป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมทั้งระบุผลงานโดยย่อของแต่ละคนเสนอคณะกรรมการ
พิจารณาให้ความเห็นชอบ
ข้อ ๓๔ ข้าราชการผู้ใดถูกสั่งลงโทษตามระเบียบนี้ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการ ผู้นั้นมีสิทธิ ให้อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๓๙ (๒) มีวาระด ารงต าแหน่งคราวละสองปี เมื่อพ้นวาระแล้ว
อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบหรือถือว่าทราบค าสั่ง อาจได้รับเลือกให้เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๓๙ (๒) ได้อีก แต่ต้องไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
การอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศ นอกจากพ้นจากต าแหน่งตามวาระแล้ว ให้อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๓๙ (๒) พ้นจาก
ก าหนด ต าแหน่งเมื่อ
เมื่อพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอ านาจสั่งบรรจุด าเนินการให้เป็นไปตาม (๑) ตาย
ค าวินิจฉัยนั้นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีค าวินิจฉัย (๒) ลาออก
(๓) คณะกรรมการมีมติให้ออก
ข้อ ๓๕ ในการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้คณะกรรมการมีอ านาจไม่รับอุทธรณ์ ยกอุทธรณ์
หรือมีค าวินิจฉัยให้แก้ไขหรือยกเลิกค าสั่งลงโทษ และให้เยียวยาความเสียหายให้ผู้อุทธรณ์หรือ ข้อ ๔๑ ให้คณะอนุกรรมการข้าราชการส านักงานด้านอุทธรณ์ร้องทุกข์ตามข้อ ๓๙ มีหน้าที่และ
ให้ด าเนินการอื่นใดเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม อ านาจในการพิจารณาอุทธรณ์และการร้องทุกข์ตามข้อ ๓๗ วรรคสอง แล้วเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ
เพื่อพิจารณาวินิจฉัย
ข้อ ๓๖ ข้าราชการส านักงานผู้ใดมีความคับข้องใจอันเกิดจากการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อตน
ของผู้บังคับบัญชา และเป็นกรณีที่ไม่อาจอุทธรณ์ได้ ผู้นั้นมีสิทธิร้องทุกข์ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ หมวด ๔
ที่ก าหนดในส่วนนี้ การออกจากราชการ
ข้อ ๓๗ ในกรณีที่เหตุแห่งการร้องทุกข์เกิดจากผู้บังคับบัญชาที่ด ารงต าแหน่งต่ ากว่าเลขาธิการ
ให้ร้องทุกข์ต่อเลขาธิการ และให้เลขาธิการเป็นผู้มีอ านาจวินิจฉัยร้องทุกข์ ข้อ ๔๒ การออกจากราชการของข้าราชการส านักงาน ให้น ากฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ
การร้องทุกข์ที่เหตุเกิดจากเลขาธิการ ให้ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการ และให้คณะกรรมการ พลเรือน กฎ ก.พ. ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ออกตามความในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน
เป็นผู้มีอ านาจวินิจฉัยร้องทุกข์ มาใช้บังคับโดยอนุโลม เว้นแต่คณะกรรมการจะก าหนดเป็นอย่างอื่น
การร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศ บทเฉพาะกาล
ก าหนด
ข้อ ๔๓ ในระหว่างที่คณะกรรมการยังมิได้ออกระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ข้อ ๓๘ ในการวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ ให้ผู้มีอ านาจวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์มีอ านาจพิจารณาไม่รับ
เรื่องร้องทุกข์ ยกค าร้องทุกข์ หรือมีค าวินิจฉัยให้แก้ไขหรือยกเลิกค าสั่ง และให้เยียวยาความเสียหาย การก าหนดต าแหน่ง และมาตรฐานการก าหนดต าแหน่งของข้าราชการส านักงานตามระเบียบนี้
ให้ผู้ร้องทุกข์หรือให้ด าเนินการอื่นใดเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้น าบทบัญญัติหรือข้อก าหนดแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือมติคณะกรรมการ
ที่มีอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้
ข้อ ๓๙ ให้มีคณะอนุกรรมการข้าราชการส านักงานด้านอุทธรณ์ร้องทุกข์ โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้ การใดที่อยู่ระหว่างด าเนินการตามบทบัญญัติหรือข้อก าหนดแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ
(๑) ประธานกรรมการหรือกรรมการที่ประธานกรรมการมอบหมาย เป็นประธาน ข้อบังคับ ประกาศ หรือมติคณะกรรมการที่ได้เริ่มด าเนินการไปแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ระเบียบ
(๒) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านกฎหมาย และด้านสิทธิมนุษยชน ด้านละ นี้มีผลใช้บังคับ ให้ด าเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือมติคณะกรรมการดังกล่าว
๑ คน เป็นอนุกรรมการ ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จและให้มีผลใช้บังคับได้ ในกรณีที่ไม่สามารถด าเนินการได้ตามระเบียบนี้
(๓) ผู้แทนส านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จ านวน ๑ คน เป็นอนุกรรมการ และไม่อาจน ากฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนมาบังคับใช้โดยอนุโลมได้ การจะด าเนินการ
(๔) ผู้แทนส านักงานศาลปกครอง จ านวน ๑ คน เป็นอนุกรรมการ ในเรื่องนั้นต่อไปอย่างไร ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการก าหนด
(๕) ผู้แทนส านักงานอัยการสูงสุด จ านวน ๑ คน เป็นอนุกรรมการ
ให้ผู้อ านวยการส านักบริหารกลางเป็นเลขานุการ และให้ผู้อ านวยการกลุ่มงานบริหารทรัพยากร ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑
บุคคลเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม วัส ติงสมิตร
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
184