Page 581 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 581
้
ในกรณีที่ต้นไม้นั้นมีอยู่ก่อนการสร้างระบบไฟฟา ให้ กฟผ.จ่ายค่าทดแทนให้แก่เจ้าของหรือผู้
ครอบครองต้นไม้เท่าที่ต้องเสียหายเพราะการกระทํานั้น
้
มาตรา 34 ในกรณีจําเป็นเพื่อตรวจ ซ่อมแซม หรือแก้ไขระบบไฟฟา พนักงานหรือลูกจ้าง
อาจเข้าไปในสถานที่ของบุคคลใดในเวลาใดก็ได้ เมื่อได้แจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองทราบแล้ว และ
ให้นํามาตรา 28 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 35 ในการกระทํากิจการตามมาตรา 33 หรือมาตรา 34 พนักงานหรือลูกจ้างจะต้อง
พยายามมิให้เกิดความเสียหาย แต่ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น กฟผ. จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น
มาตรา 36 เมื่อมีความจําเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์เพื่อได้มาซึ่งแหล่งพลังงาน
ตามมาตรา 6 (2) หรือเพื่อใช้ตามมาตรา 9 (4) ให้ดําเนินการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์
ในการนี้ จะออกพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่คิดจะเวนคืนไว้ก่อนก็ได้ และ
ให้นําบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาใช้บังคับโดยอนุโลม
้
มาตรา 37 ผู้ใดสร้างโรงไฟฟาที่มีกําลังผลิตรวมกันสูงกว่ายี่สิบเมกะวัตต์เพื่อ ใช้เอง หรือที่มี
้
กําลังผลิตรวมกันสูงกว่าหกเมกะวัตต์เพื่อขายพลังงานไฟฟาแก่ประชาชน ประสงค์ จะเชื่อมโยงระบบ
้
้
้
้
ไฟฟาของตนกับระบบไฟฟาของ กฟผ. การไฟฟานครหลวง หรือการไฟฟาส่วนภูมิภาค ต้องยื่นคําขอ
และได้รับความเห็นชอบจาก กฟผ.ก่อน
้
ในการให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง ให้ กฟผ. กําหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวกับ คุณภาพไฟฟา
้
เทคนิคทางวิศวกรรม และความปลอดภัยของระบบไฟฟาเพื่อการเชื่อมโยงระบบได้
้
การพิจารณาคําขอของผู้สร้างโรงไฟฟาตามวรรคหนึ่ง ให้ กฟผ. พิจารณาโดยไม่ชักช้า
้
ผู้สร้างโรงไฟฟาที่ไม่ได้รับความเห็นชอบหรือได้รับความเห็นชอบโดยมีเงื่อนไขที่ไม่อาจรับได้
มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ไม่ได้รับความเห็นชอบ หรือได้รับความ
เห็นชอบโดยมีเงื่อนไขที่ไม่อาจรับได้
ให้คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์แต่ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่
เห็นด้วยกับคําวินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสนอคดีต่อศาลภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําวินิจฉัย
อุทธรณ์
มาตรา 38 ให้ กฟผ.รับผิดชอบในการดําเนินกิจการและการบํารุงรักษาเขื่อนกั้นนํ้า เขื่อน
ระบายนํ้า เขื่อนกักเก็บนํ้า อ่างเก็บนํ้า และสิ่งอื่นอันเป็นอุปกรณ์ของเขื่อนหรืออ่างนั้น ภายในขอบแห่ง
วัตถุประสงค์ตาม มาตรา 6 รวมทั้งการควบคุมปริมาณนํ้าที่กักเก็บหรือระบายจาก อ่างเก็บนํ้า โดยให้
คํานึงถึงประโยชน์มากที่สุดจากการควบคุมลุ่มแม่นํ้าที่มีการสร้างเขื่อนดังกล่าว นั้น และแคว ลํานํ้า
ทางนํ้า คลอง หรือคลองส่งนํ้าที่มีต่อเนื่องกับลุ่มแม่นํ้านั้นให้เป็นอันหนึ่ง อันเดียวกัน
ให้ กฟผ. และกรมชลประทานร่วมกันออกข้อบังคับเพื่อกําหนดปริมาณนํ้าที่จะ กักเก็บหรือ
ระบายจากอ่างเก็บนํ้า
ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกข้อบังคับ หรือการปฏิบัติตามข้อบังคับให้รายงาน
ต่อรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาวินิจฉัย คําวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
9‐39