Page 97 - รายงานฉบับสมบูรณ์ นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย-พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม
P. 97
๘๘
รายงานศึกษาวิจัย “นโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนชายแดนไทย – พม่า : กรณีผู้อพยพจากภัยสงคราม”
นอกจากนี้ หน่วยงานภาคประชาสังคมยังมีบทบาทในการพัฒนาการกรอบทางกฎหมายที่ใช้
คุ้มครองผู้ลี้ภัย เช่น อนุสัญญาห้ามทุ่มระเบิดสังหารบุคคล (Convention on the ban Landmines) ซึ่ง
เป็นผลมาจากการริเริ่มของภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบกับปัญหาโดยตรงจากทุ่นระเบิดสังหาร
บุคคล และได้ร่วมตัวกันตั้งการรณรงค์ในระดับสากลเพื่อต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และกดดัน
ให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ด าเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนท าให้มีการร่างอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด
๑๔
สังหารบุคคลขึ้น
ภาคประชาสังคมสามารถท างานร่วมกับรัฐเพื่อสร้างแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน แต่ทั้งนี้
การเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมนั้นจะต้องมีความโปร่งใส มีเป็นอิสระในการท างาน และเคารพ
กรอบของกฎหมาย และเพื่อให้การท างานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานภาคประชา
สังคมมีประสิทธิภาพสมควรจัดระบบการประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งจะได้กล่าวถึงในข้อต่อไป
๔.๕ ระบบการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ระบบประสานงานที่สามารถส่งเสริมและประสิทธิภาพการท างานของหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัย นั้น
สามารถเกิดขึ้นได้โดย ๒ วิธีหลัก คือ การตั้งหน่วยงานประสานงานกลาง และการจัดท าฐานข้อมูลร่วมกัน
ก. ตั้งหน่วยงานประสานงานกลาง
การส่งผู้ลี้ภัยเดินทางกลับประเทศต้นทาง เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายทั้งหน่วยงานของรัฐ
ภาคประชาสังคม ประชาชนในพื้นที่ และผู้ลี้ภัย ซึ่งแต่ละฝ่ ายมีการเก็บรวมรวมข้อมูล ศักยภาพ
วัตถุประสงค์ในการท างานที่แตกต่างกัน เพื่อการท างานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพจึงจ าเป็นที่จะต้อง
สร้างระบบประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ขึ้น โดยการตั้งหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบในการ
ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยทั้งหมด ท าหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย
สถานการณ์ในประเทศต้นทาง หน่วยงานที่ให้การดูแลช่วยเหลือผู้ลี้ภัย และประสานงานให้มีการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๑๔ Walter Fust, “CIVIL SOCIETY IN INTERNATIONAL COOPERATION” the Opening Session of the World
Civil Society Forum, Geneva, July ๑๕, ๒๐๐๒. http://www.worldcivilsociety.org/documents/
๑๕.๐๑_fust_walter_ddc.doc