Page 133 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 133
๓
หมวด ๒
การขอรับความช่วยเหลือกรณีถูกดำเนินคดี
ส่วนที่ ๑
การขอรับความช่วยเหลือ
ข้อ ๑๑ กรณีบุคคลตามข้อ ๕ ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือกรณีถูกดำเนินคดี ให้ยื่นคำขอรับ
ความช่วยเหลือกรณีถูกดำเนินคดีตามแบบ ชล. ๑ ต่อประธานกรรมการหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ หากบุคคลดังกล่าวอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวหรือถูกคุมขังอาจมอบหมายให้บุคคลอื่นที่บรรลุนิติภาวะ
ยื่นคำขอรับความช่วยเหลือแทนก็ได้
ในคดีอาญา หากบุคคลตามข้อ ๕ ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือในการออกหนังสือรับรองการ
ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ระบุวงเงินในการออกหนังสือรับรองการขอปล่อยชั่วคราวในแบบ ชล. ๑ ให้ชัดเจน
กรณีบุคคลตามข้อ ๕ เป็นผู้ที่สามารถใช้ตำแหน่งของตนเองเป็นหลักประกันได้ให้ใช้สิทธินั้นก่อน
เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอื่นให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี และหากใช้ตำแหน่ง
ของตนเองเป็นหลักประกันแล้วยังไม่เพียงพอกับวงเงินประกันก็ให้ขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้
ข้อ ๑๒ เมื่อสำนักงานได้รับคำขอตามข้อ ๑๑ แล้ว ให้นำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติหรือให้ความ
เห็นชอบตามข้อ ๗ เพื่อพิจารณา หากเห็นว่าการขอรับความช่วยเหลือเป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่
ราชการหรือสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมาย และคณะกรรมการ เลขาธิการ
หรือสำนักงานมิได้เป็นผู้ดำเนินคดีต่อบุคคลนั้น ก็ให้พิจารณาอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบในการให้ความ
ช่วยเหลือต่อไป
กรณีประธานกรรมการหรือกรรมการเป็นผู้ขอความช่วยเหลือ เมื่อเลขาธิการพิจารณาตามวรรคหนึ่ง
แล้วผลเป็นเช่นใด ให้รายงานคณะกรรมการเพื่อทราบต่อไป
ส่วนที่ ๒
สิทธิได้รับความช่วยเหลือ
ข้อ ๑๓ ให้บุคคลที่ได้รับความช่วยเหลือกรณีถูกดำเนินคดี มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือ ดังต่อไปนี้
(๑) การขอให้พนักงานอัยการแก้ต่างคดีในชั้นศาล
(๒) การจัดให้มีประกันหรือหลักประกันในคดีอาญา
(๓) การช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการถูกดำเนินคดี ดังนี้
127