Page 236 - รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการคุ้มครองการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ดิน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ระหว่างวันที่ 19-23 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
P. 236
แนวค าวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับสิทธิชุมชนกับสิ่งแวดล้อม
๕. ค ำพิพำกษำศำลปกครองสูงสุดที่ อ. ๑๖๘ – ๑๗๕/๒๕๖๕ (ต่อ)
แต่เมื่อพิเครำะห์ภำพถ่ำยประกอบหนังสือรับรองของนำยกองค์กำรบริหำรส่วนต ำบลฯ ได้ปรำกฏเป็นภำพถ่ำยหลักเขตชลประทำนเลขที่ ชป ๐๐๖๖
ตั้งอยู่คู่กับหลักเขตของกรมที่ดิน เลขที่ จ ๔๑๗๗ ด้ำนมุมขวำบนของโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๕๙๔ (ออกเมื่อ ๒๕๓๗) ของผู้ฟ้องคดีที่ ๙ และมี
เจ้ำหน้ำที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมำรับรองแนวเขตด้ำนทิศเหนือของแปลงที่ดินซึ่งติดกับอ่ำงเก็บน้ ำ โดยมิได้ข้อโต้แย้งจำกผู้ถูกฟ้องคดี หลักเขต
ชลประทำนเลขที่ ชป ๐๐๖๖ มิใช่หลักเขตที่แท้จริง หรือมีกำรย้ำยหลักเขต กรณีจึงรับฟังได้ว่ำ หลักเขตชลประทำนเลขที่ ชป ๐๐๖๖ เป็นหลักเขต
ที่มีอยู่จริงและเจ้ำหน้ำที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเป็นผู้ปัก อธิบดีฯ จึงมีอ ำนำจน ำที่ดินส่วนที่อยู่หลังหลักเขตดังกล่ำวไปให้รำษฎรท ำประโยชน์
กำรที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองด ำเนินกำรซ่อมแซมหลักเขตชลประทำนในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยปักหลักเขตเพิ่มจำกระยะห่ำงทุก ๕๐๐
เมตร เป็นระยะ ๑๐๐ เมตร ระหว่ำงหลักเขตชลประทำนที่ ชป ๐๐๖๘ ลัดตรงไปยังหลักเขตชลประทำนเลขที่ ชป ๐๐๙๔ และเลขที่ ชป ๐๐๓๘
ตำมล ำดับ โดยมิได้ปักจำกหลักเขตชลประทำนเลขที่ ชป ๐๐๖๘ ไปยังเลขที่ ชป ๐๐๖๖ เลขที่ ชป ๐๐๙๔ และเลขที่ ชป ๐๐๓๘ ตำมล ำดับ จึงเป็น
กำรปักหลักเขตชลประทำนไม่เป็นไปตำมแนวหลักเขตเดิมที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ รับมอบที่ดินมำจำกอธิบดีกรมประชำสงเครำะห์เพื่อก่อสร้ำงอ่ำงเก็บ
น้ ำ นอกจำกนี้ ยังตรวจสอบแล้วพบว่ำ ที่ดินทั้งหมดมีกำรออกโฉนดที่ดินเฉพำะรำยตำมมำตรำ ๕๙ แห่งประมวลกฎหมำยที่ดิน ซึ่งในวันรังวัด
ผู้แทนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้รับรองแนวเขตไว้แล้ว กรณีจึงน่ำเชื่อว่ำ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ปักหลักเขตชลประทำนรุกล้ ำเข้ำไปในที่ดินของผู้ฟ้องคดีที่ ๑
ถึงผู้ฟ้องคดีที่ ๓ และผู้ฟ้องคดีที่ ๗ ถึงผู้ฟ้องคดีที่ ๑๐ เป็นกำรกระท ำละเมิด