Page 223 - รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการคุ้มครองการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ดิน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสม. ระหว่างวันที่ 19-23 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
P. 223
แนวค าวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน
๑. ค ำพิพำกษำศำลปกครองสูงสุดที่ อ. ๑๖๘ – ๑๗๕/๒๕๖๕ (ต่อ)
แต่เมื่อพิเคราะห์ภาพถ่ายประกอบหนังสือรับรองของนายกองค์การบริหารส่วนต าบลฯ ได้ปรากฏเป็นภาพถ่ายหลักเขตชลประทานเลขที่ ชป ๐๐๖๖
ตั้งอยู่คู่กับหลักเขตของกรมที่ดิน เลขที่ จ ๔๑๗๗ ด้านมุมขวาบนของโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๔๕๙๔ (ออกเมื่อ ๒๕๓๗) ของผู้ฟ้องคดีที่ ๙ และมีเจ้าหน้าที่ของ
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมารับรองแนวเขตด้านทิศเหนือของแปลงที่ดินซึ่งติดกับอ่างเก็บน้ า โดยมิได้ข้อโต้แย้งจากผู้ถูกฟ้องคดี หลักเขตชลประทานเลขที่ ชป
๐๐๖๖ มิใช่หลักเขตที่แท้จริง หรือมีการย้ายหลักเขต กรณีจึงรับฟังได้ว่า หลักเขตชลประทานเลขที่ ชป ๐๐๖๖ เป็นหลักเขตที่มีอยู่จริงและเจ้าหน้าที่ของ
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเป็นผู้ปัก อธิบดีฯ จึงมีอ านาจน าที่ดินส่วนที่อยู่หลังหลักเขตดังกล่าวไปให้ราษฎรท าประโยชน์
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองด าเนินการซ่อมแซมหลักเขตชลประทานในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยปักหลักเขตเพิ่มจากระยะห่างทุก ๕๐๐ เมตร
เป็นระยะ ๑๐๐ เมตร ระหว่างหลักเขตชลประทานที่ ชป ๐๐๖๘ ลัดตรงไปยังหลักเขตชลประทานเลขที่ ชป ๐๐๙๔ และเลขที่ ชป ๐๐๓๘ ตามล าดับ
โดยมิได้ปักจากหลักเขตชลประทานเลขที่ ชป ๐๐๖๘ ไปยังเลขที่ ชป ๐๐๖๖ เลขที่ ชป ๐๐๙๔ และเลขที่ ชป ๐๐๓๘ ตามล าดับ จึงเป็นการปักหลักเขต
ชลประทานไม่เป็นไปตามแนวหลักเขตเดิมที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ รับมอบที่ดินมาจากอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ า นอกจากนี้
ยังตรวจสอบแล้วพบว่า ที่ดินทั้งหมดมีการออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งในวันรังวัด ผู้แทนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้
รับรองแนวเขตไว้แล้ว กรณีจึงน่าเชื่อว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ปักหลักเขตชลประทานรุกล้ าเข้าไปในที่ดินของผู้ฟ้องคดีที่ ๑ ถึงผู้ฟ้องคดีที่ ๓ และผู้ฟ้องคดี
ที่ ๗ ถึงผู้ฟ้องคดีที่ ๑๐ เป็นการกระท าละเมิด