Page 132 - รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต
P. 132
๒ คน (ปัจจุบันกำาลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และประถมศึกษา ความคิด/ความรูสึก/การจัดการเมื่อทราบวาตองโทษประหารชีวิต
้
่ ้
ปีที่ ๖) หลังจาก ๑๒ ปีนั้น ทั้งสองได้ทำาการหย่าขาดจากกัน โดยมีการ จากการแนะนำาให้สู้คดี และการรับปากของทนายความว่าจะวิ่งเต้น
แบ่งทรัพย์สินกันเรียบร้อย ยกเว้นบ้าน ๑ หลังที่นักโทษประหารหญิง คดีให้ได้นั้น ทำาให้เธอไม่คิดว่าจะได้รับโทษสูงสุด หรือแม้จะได้รับ
กรณีที่ ๑ อาศัยร่วมกับบุตรที่ไม่ได้มีการแบ่งกรรมสิทธิ์ ตัดสินโทษแล้วก็เชื่อว่าจะสามารถประกันตัวได้ หากแต่ภายหลัง
หลังจากหย่ากันแล้ว อดีตสามีต้องการที่จะนำาบ้านที่นักโทษประหาร ได้รับคำาพิพากษาตัดสินลงโทษประหารชีวิต นักโทษประหารหญิง
หญิง กรณีที่ ๑ พักอาศัยนั้นไปขอสินเชื่อที่สถาบันการเงิน แต่นักโทษ กรณีที่ ๑ ไม่สามารถติดต่อทนายความได้ จึงทำาให้พ่อต้องเป็น
ประหารหญิง กรณีที่ ๑ ไม่ยินยอมลงนามให้ดำาเนินการ อดีตสามี ผู้เข้ามาดำาเนินการเรื่องต่างๆ ให้ และได้รับข่าวจากพ่อว่าไม่สามารถ
ได้มาก่อกวนโดยทำาลายข้าวของภายในร้าน ทำาร้ายร่างกายเธอ ประกันตัวได้
เป็นประจำา รวมทั้งยังข่มขู่ว่า “ถ้าไม่เซ็นจะเอาให้ตาย” ซึ่งในแต่ละ เมื่อรับทราบแล้วว่าไม่สามารถประกันตัวได้ นักโทษประหารหญิง
ครั้งที่มา อดีตสามีจะพกพาอาวุธปืนติดตัวมาด้วย ทำาให้เธอต้อง กรณีที่ ๑ เกิดความเครียด คิดมาก หาทางออกไม่ได้ว่าจะทำาอย่างไร
คอยหลบซ่อน ในบางครั้งบุตรก็เป็นคนบอกให้เธอหลบหนีให้พ้นเสีย จึงได้สอบถามเพื่อนผู้ต้องขังรายอื่นว่าจะทำาอย่างไรได้บ้าง ซึ่งเธอ
จากอดีตสามีที่ตามมารังควานตลอดเวลา ได้รับคำาตอบว่า โทษที่เธอได้รับเป็นโทษสูง คงทำาอะไรได้ยาก
จนกระทั่งเธอทนไม่ไหว เธอจึงนำาเรื่องไปปรึกษากับน้องเขย (สามี ในช่วงแรกเธอเคยคิดจะหนีออกจากเรือนจำา แต่ก็ไม่รู้หนทาง ทำาให้หนี
ของน้องสาว) ว่าทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ให้น้องเขย ไปไหนไม่ได้ เธอจึงทำาได้เพียงสู้คดีต่อไปในทุกช่องทางที่สามารถทำาได้
หาทางจัดการให้หน่อย น้องเขยจึงแจ้งว่า ถ้าเช่นนั้นคงต้องทำาให้ตาย โดยพ่อเป็นผู้จัดหาทนายความมาว่าความให้ใหม่
เธอจึงอนุญาตให้น้องเขยจัดการตามสมควรได้ จากนั้นจึงได้มีการ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้คดีในชั้นศาลทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และ
ว่าจ้างมือปืนไปยิงอดีตสามีจนเสียชีวิต และเมื่อถูกจับกุมก็ได้มี ศาลฎีกา ทำาให้เธอและครอบครัวต้องสูญเสียเงินไปมากกว่า ๕ ล้านบาท
การซัดทอดมาถึงเธอว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่า (ในการตัดสินใจนี้ เธอไม่ได้ ในการว่าจ้างทนายความ ทั้งจากเงินที่เธอมีและการขายที่ดินทำากิน
ปรึกษาพ่อแม่เพราะรู้ดีว่าต้องมีการห้ามปรามจึงได้เลือกปรึกษา เพื่อนำาเงินมาต่อสู้คดี
น้องเขย)
ส่วนบุตรทั้งสองคนของเธอนั้น ป้า (พี่สาวของผู้ตาย) เป็นคนรับบุตร
ในการต่อสู้คดีนั้น เธอได้ว่าจ้างทนายความเพื่อว่าความสู้คดีให้ ของเธอไปดูแล รวมทั้งยังมีการติดต่อมาหาเธอทางจดหมายด้วย
ซึ่งเธอได้รับคำาแนะนำาให้ต่อสู้คดี โดยจะมีแนวทางในการวิ่งเต้นคดี โดยเฉพาะครั้งหนึ่งที่เธอจำาได้แม่นว่า ป้าบอกว่า “พี่เข้าใจดีว่า
ให้สามารถประกันตัวและไม่ได้รับโทษสูงได้ การเชื่อคำาแนะนำานั้น น้องชายเขาเป็นคนอย่างไร อยู่ในเรือนจำา อยากให้น้องอดทน”
ทำาให้เธอต่อสู้คดีจนถึงที่สุดทั้งสามศาล โดยไม่ได้มีการรับสารภาพในการ
กระทำาผิด และได้รับบทลงโทษประหารชีวิตอย่างที่เธอไม่ได้คาดคิด ทั้งนี้ เธอพบว่า การแสดงออกทางความรู้สึกของเธอเปลี่ยนแปลงไปหลังจาก
มาก่อน ที่เข้ามารับโทษในทัณฑสถาน โดยก่อนหน้านี้เธอจะเป็นคนร้องไห้เก่ง แต่ปัจจุบัน
้
แทบจะไม่มีนำาตาเลย
130 รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต 131
