Page 3 - หลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษารายวิชาเฉพาะสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
P. 3

1


                                                      หลักการและเหตุผล



                               ทิศทางด้านสิทธิมนุษยชนศึกษาของโลกในช่วงที่ผ่านมา ได้เน้นย ้าถึงความส้าคัญของการ
                 ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนเพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจร่วมกันในหลักการสิทธิมนุษยชนจนน้าไปสู่การยอมรับ

                 และเกิดวัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชน โดยแผนงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติส่วนใหญ่ล้วนให้
                 ความส้าคัญกับการส่งเสริมความรู้สิทธิมนุษยชนแก่บุคลากรกระบวนการยุติธรรม ไม่วาจะเป็นแผนงานระดับ

                 โลกส้าหรับสิทธิมนุษยชนศึกษาของส้านักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

                 (Word Programme of Human rights Education )  ปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนศึกษา
                 และการฝึกอบรม ความส้าคัญดังกล่าวถูกเน้นย ้าในเชิงประจักษ์และเป็นที่เกี่ยวข้องมากขึ นตามข้อสังเกตต่อ

                 รายงานด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลไทยในเวทีระหว่างประเทศของคณะกรรมการประจ้าสนธิสัญญาสิทธิ
                 มนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ ได้แก่ คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองและ

                 คณะกรรมการว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม  ตลอดจนข้อเสนอแนะจากนานาประเทศ

                 ในรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ภายใต้กลไก Universal Periodic Review
                 (UPR) รอบที่ ๒ ส่วนใหญ่ให้ความส้าคัญกับการส่งเสริมความรู้สิทธิมนุษยชนโดยมุ่งเน้นเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้

                 กฎหมายในกระแสธารกระบวนการยุติธรรม ทั ง ต้ารวจ ทหาร อัยการ หน่วยงานศาล ราชทัณฑ์ เป็นต้น อีกทั ง
                 ความส้าคัญของกระบวนการยุติธรรมยังเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ค.ศ.

                 ๒๐๓๐ (Sustainable Development Goals–SDGs) ที่ถือเป็นวาระโลก ในการมุ่งเน้นสันติภาพ ความมั่นคง

                 สิทธิมนุษยชนและการปกครองที่มีประสิทธิภาพบนพื นฐานของหลักนิติธรรม  (เป้าหมายการพัฒนาที่ ๑๖
                 สังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก)


                               ความส้าคัญของสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมในระดับสากล สอดรับกับกฎหมาย
                 แนวนโยบาย และการปฏิบัติในประเทศ ตั งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา

                 ๔ ซึ่งให้ความคุ้มครองหลักการสิทธิมนุษยชนที่ว่าด้วยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอ
                 ภาค   ของบุคคล  อีกทั งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔)

                 ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การบริหารจัดการในภาครัฐ การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบและธรรมาภิบาลใน
                 สังคมไทย และยุทธศาสตร์ที่ ๑๐ ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา ก็ให้ความส้าคัญกับการปฏิรูป

                 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เป็นธรรมและสอดคล้องกับข้อบังคับสากลหรือข้อตกลง

                 ระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเสมอภาค โดยพัฒนากลไกการก้ากับดูแล
                 และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางด้านกฎหมายและยกระดับมาตรฐานของประเทศไทยให้สอดคล้องกับ

                 มาตรฐานและบรรทัดฐานสากลตามพันธกรณีระหว่างประเทศ สอดคล้องกับแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติฉบับที่

                 ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) ได้เน้นย ้าการปฏิบัติเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนแก่บุคลากรใน
                 กระบวนการยุติธรรม มุ่งเน้นการพัฒนาหลักจริยธรรมของบุคลากรด้านกระบวนการยุติธรรม ได้แก่  ต้ารวจ

                 อัยการ ศาล ราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ส่งเสริมการท้างานด้านกระบวนการยุติธรรมที่ยึด
                 หลักนิติธรรม (Rule of Law) ส่งเสริมการใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารงานด้านกระบวนยุติธรรม

                 ในทุกหน่วยงานและทุกระดับการปฏิบัติงาน การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่  และส่งเสริม
   1   2   3   4   5   6   7   8