Page 12 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2561
P. 12
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี ๒๕๖๑
ในส่วนของประเทศไทย ได้จัดตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กสม. ปฏิบัติหน้าที่ข้างต้น โดยค�านึงถึงการความผาสุก
แห่งชาติ (กสม.) ขึ้นโดยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ของประชาชนชาวไทยและผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มีอ�านาจหน้าที่ เป็นส�าคัญ โดยได้จัดท�ากรอบการประเมิน ศึกษาและ
ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ตามที่ ประมวลข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐภาคเอกชนและข้อมูล
ก�าหนดในพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จากการปฏิบัติงานของ กสม. รวมทั้งได้น�าระบบเทคโนโลยี
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ สารสนเทศมาใช้สนับสนุนในการติดตามและรวบรวมข้อมูล
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ กสม. มีสถานะ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน และเพื่อน�าไปสู่การพัฒนา
เป็น “องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ” มีหน้าที่และอ�านาจ ระบบฐานข้อมูลต่อไปด้วย ส่วนการประเมินและวิเคราะห์
ตามที่ปรากฏในหมวด ๑๒ ส่วนที่ ๖ มาตรา ๒๔๗ ของ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน จะพิจารณาบนหลักการ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ด้านสิทธิมนุษยชนตามที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย หรือหนังสือสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคี และมีพันธกรณี
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่จะต้องปฏิบัติตาม
(พรป.กสม.) โดยก�าหนดให้ กสม. มีหน้าที่จัดท�ารายงาน
ผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน กสม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพัฒนากระบวนการท�างาน
ของประเทศไทย (พรป.กสม. มาตรา ๒๖) ซึ่งต้องกระท�า ที่อยู่บนฐานข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย การน�าเทคโนโลยี
แบบสรุป ประกอบด้วยปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ สารสนเทศมาช่วยสนับสนุนการท�างาน รวมถึงการพัฒนา
ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยควรด�าเนินการ ฐานข้อมูลซึ่งจะมีขึ้นในโอกาสต่อไป จะช่วยให้รายงาน
ให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน ผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน
เพื่อน�าเสนอต่อรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งเผยแพร่ ของประเทศไทยฉบับนี้มีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น อันอาจเป็น
ต่อประชาชน (พรป.กสม. มาตรา ๔๐) ทั้งนี้ กสม. ต้องจัด ประโยชน์ต่อการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ให้มีแผนการด�าเนินการจัดท�ารายงานดังกล่าวเพื่อให้ ในสังคมไทยให้สอดคล้องตามหลักการสิทธิมนุษยชน
การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปโดยไม่ชักช้าและแล้วเสร็จ อย่างน้อยตามมาตรฐานที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ
ตามระยะเวลาที่ก�าหนดไว้ (พรป.กสม. มาตรา ๔๑) ในขณะที่ แห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
คณะรัฐมนตรีต้องด�าเนินการปรับปรุงแก้ไขปัญหา
ตามความเหมาะสมโดยเร็วภายหลังจากที่ได้รับทราบรายงาน
ดังกล่าว และในกรณีใดที่มิอาจด�าเนินการได้หรือต้องใช้
เวลาในการด�าเนินการ ให้แจ้งเหตุผลให้ กสม. ทราบ
โดยไม่ชักช้า (พรป.กสม. มาตรา ๔๓)
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
11