Page 21 - การสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อ การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน
P. 21

ผมขอนำ�ท่�นใช้เวล�ชั่วขณะหนึ่งเดินท�งไปยุโรป ย้อนไป                                  ใน ค.ศ. ๑๗๖๔ เซซ�ร์ เบคก�เรีย (Cesare Beccaria) ตีพิมพ์

              ในยุคฟื้นฟูศิลปะวิทย�ก�ร ผู้คนจำ�นวนม�กในยุคนั้นกระห�ยใคร่รู้                        ผลง�นเรื่อง Les délits et des peines ถือเป็นก�รว�งร�กฐ�น
              เรื่องสถ�นภ�พ สิทธิ หน้�ที่และคว�มสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของมนุษย์                       ของก�รปฏิรูประบบตัดสินคว�มผิดท�งอ�ญ�ร่วมสมัย เข�แสดง
              กับสังคม ท่�นคงรู้จักหนังสือเรื่อง De l’Esprit des Lois (เจตจำ�นง                    ทัศนะว่� ก�รลงทัณฑ์ด้วยชีวิตไม่เพียงเป็นเรื่องผิดกฎหม�ยเท่�นั้น

              แห่งกฎหม�ย - ค.ศ. ๑๗๔๘) ของมงเตสกิเยอ หรือ Du Contrat                                ทั้งยังไม่มีประสิทธิภ�พใดๆ ที่จะชักจูงอ�ชญ�กรมิให้กระทำ�ผิด
              Social  (สัญญ�ประช�คม - ค.ศ. ๑๗๔๘) ของรุซโซ  ในทัศนะของนักเขียน                      ข้อเขียนนี้พิมพ์เผยแพร่ในฝรั่งเศสในปีต่อม� และได้รับคว�มสนใจ

              ทั้งสอง ในส่วนกฎหม�ยที่มีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภ�พขั้นพื้นฐ�นของ                        อย่�งกว้�งขว�ง
              บุคคลและศักดิ์ศรีคว�มเป็นมนุษย์นั้น ต้องเพิ่มพื้นที่ใหม่ให้แก่                              วอลแตร์ (Voltaire) ซึ่งได้ทุ่มเทรณรงค์ให้มีก�รรื้อฟื้นคดี
              คว�มเป็นมนุษย์ในสังคมที่มีคว�มตื่นรู้ มีหล�ยคดีคว�มสำ�คัญที่                         เพื่อให้คว�มเป็นธรรมแก่ ฌ็อง ก�ล�ซ์ (Jean Calas) ผู้ถูกตัดสิน

              ชี้ให้เห็นช่องโหว่ของระบบตัดสินโทษที่ไม่เป็นธรรมซึ่งใช้กันม�น�น                      ประห�รด้วยวิธีทุบตี บีบคอ และเผ� ที่เมืองตูลูส
              ดังกรณีก�รตัดสินลงโทษประห�รชีวิต ซีร์ว็อง (Cirven) ใน ค.ศ. ๑๗๖๐                             วอลแตร์ได้เข้�ร่วมกระแสปฏิรูปเบคก�เรียน  ตั้งแต่

              ฌ็อง ก�ล�ซ์ (Jean Calas) ใน ค.ศ. ๑๗๖๒ และ เชอว�ลิเยร์ เดอ ล�                         ค.ศ. ๑๗๖๖ แล้ว ขณะที่ในอังกฤษ เจเรมี เบนแธม (Jeremy
              บ�ร์ (Chevalier de la Barre) ใน ค.ศ. ๑๗๖๕  ซึ่งส่งผลในวงกว้�ง                        Bentham) อ�ศัยแนวคิดเรื่องคว�มได้สัดส่วนคว�มหนักเบ�ของ
              เป็นแรงผลักดันนักคิดนักเขียนในสมัยนั้นให้วิพ�กษ์ระบบก�รลงโทษ                         ก�รกระทำ�คว�มผิดม�กำ�หนดอัตร�ก�รลงโทษ และยังเสนอให้ใช้

              ที่ร้�ยแรงอย่�งต่อเนื่อง จนทำ�ให้เกิดปรัชญ�ว่�ด้วยก�รลงโทษ                           ระบบก�รกักขังและปฏิบัติต่อนักโทษอย่�งเป็นมนุษย์ให้ม�กขึ้นด้วย
              หรือทัณฑวิทย�                                                                        กล่�วได้ว่�  ก�รระบุโทษต�มสัดส่วนก�รกระทำ�คว�มผิดนั้นเป็น
                     ต้องกล่�วด้วยว่� ขณะนั้นก�รใช้วิธีขังนักโทษในคุกมีน้อยม�ก                     วิธีก�รลงโทษท�งอ�ญ�ที่เหม�ะสม ห�กต้องคำ�นึงด้วยว่�ก�รลงโทษ

              ในฝรั่งเศส ระบบกดขี่ที่ใช้โทษประห�รชีวิตเป็นหลักในก�รตัดสิน                          ให้หล�บจำ�นั้น ต้องช่วยให้ผู้กระทำ�ผิดส�ม�รถกลับไปอยู่ร่วมกับ
              ก�รกระทำ�คว�มผิดต่�งๆ กว่� ๑๑๐ เรื่อง ด้วยมุ่งหม�ยให้ผู้ต้องโทษ                      ผู้คนในสังคมได้ ในระบอบก�รปกครองรูปแบบเก่� วิธีก�รลงโทษ
              ทนทุกข์ทรม�น เป็นที่ดูถูกเหยียดหย�ม ไม่ให้ใครเอ�เยี่ยงอย่�ง                          ท�งร่�งก�ยเป็นหนท�งเดียวที่จะป้องปร�มมิให้เกิดก�รกระทำ�ผิด

              ผู้ต้องโทษประห�รชีวิตต้องสูญเสียศักดิ์ศรีคว�มเป็นมนุษย์  และแม้                      แนวคิดทัณฑวิทย�คัดค้�นเรื่องก�รลงโทษตัวบุคคลเพื่อไม่ให้เป็น
              กระทั่งคว�มคงอยู่ท�งก�ยภ�พในสังคม                                                    เยี่ยงอย่�งและก�รลงโทษที่คำ�นึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับ







              20                                                                                                                                      21
              การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน                                                                                    การลงโทษทางอาญากับหลักสิทธิมนุษยชน
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26