Page 25 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 25
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
บทน�า
๑.๑ ความส�าคัญและประเด็นปัญหาของการวิจัย
หลักความเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติเป็นหลักส�าคัญของสิทธิมนุษยชน ซึ่งปรากฏให้เห็นจากตราสาร
ระหว่างประเทศหลายฉบับ เริ่มตั้งแต่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. ๑๙๔๘. (Universal Declaration of
Human Rights หรือ UDHR) วางหลักเกี่ยวกับความเสมอภาคไว้ว่า “มนุษย์ทั้งหลายเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันใน
ศักดิ์ศรีและสิทธิ ต่างมีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยเจตนารมณ์แห่งภราดรภาพ” นอกจากนี้ ยังวาง
หลักการห้ามเลือกปฏิบัติไว้ว่า “บุคคลทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพบรรดาที่ก�าหนดไว้ในปฏิญญานี้ โดยปราศจาก
ความแตกต่างไม่ว่าชนิดใด ๆ …” ส�าหรับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International
Covenant on Civil and Political Rights หรือ ICCPR) ก็ได้วางหลักเกี่ยวกับความเสมอภาคและการห้ามเลือกปฏิบัติ
ไว้ว่า “บุคคลทั้งปวงย่อมเสมอกันตามกฎหมาย และมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันตามกฎหมาย โดย
ปราศจากการเลือกปฏิบัติใด ๆ …” นอกจากนี้ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
(International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights หรือ ICESCR) วางหลักเกี่ยวกับความ
เสมอภาคและการห้ามเลือกปฏิบัติไว้ว่า “รัฐภาคีแห่งกติกานี้รับที่จะประกันว่าสิทธิทั้งหลายที่ระบุไว้ในกติกานี้ปราศจาก
การเลือกปฏิบัติใด ๆ …” จะเห็นได้ว่าหลักการความเสมอภาคหรือหลักความเท่าเทียมกัน และการห้ามเลือกปฏิบัติเป็น
หลักส�าคัญปรากฏจากตราสารระหว่างประเทศอื่นในกรอบของสหประชาชาติ รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศระดับ
ภูมิภาคและถ่ายทอดไปยังกฎหมายภายในของประเทศต่าง ๆ ส�าหรับประเทศไทยนั้น มีพันธกรณีตามความตกลง
ระหว่างประเทศหลายฉบับที่มีหลักการดังกล่าว ในระดับกฎหมายภายในของไทยนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ที่ผ่านมาหลายฉบับได้รับรองหลักความเสมอภาคและการห้ามเลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม สภาพปัญหาเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติในประเทศไทยนั้น หากพิจารณาในส่วนของการร้องเรียน
ในกระบวนการทางกฎหมาย พบว่ามีการเรียกร้องสิทธิหรือประเด็นพิพาททางกฎหมายหลายมิติ เช่น คดีของศาล
ปกครอง คดีของศาลรัฐธรรมนูญ ส�าหรับการร้องเรียนในกรอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็พบว่ามี
ค�าร้องที่มีประเด็นอ้างว่าถูกเลือกปฏิบัติเป็นจ�านวนมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสภาพข้อเท็จจริงและการ
เรียกร้องเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติและความเสมอภาคในประเทศไทย พบว่าบุคคลผู้ถูกกระทบสิทธิมักจะกล่าวอ้างว่า
ถูกเลือกปฏิบัติ ทั้งที่หากพิจารณาตามกรอบกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศแล้ว ข้อเท็จจริงลักษณะนั้นอาจ
ไม่จัดเป็นการเลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ หากพิจารณากฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าหลักเกี่ยวกับความเสมอภาค
และการห้ามเลือกปฏิบัติถูกน�าไปบัญญัติไว้ในกฎหมายหลายฉบับอย่างกระจัดกระจาย อีกทั้งขอบเขตของกฎหมาย
ดังกล่าวยังมีความแตกต่างกันไปอีกด้วย
ดังนั้น งานวิจัยฉบับนี้จึงมุ่งศึกษาหลักความเท่าเทียมกันและการห้ามเลือกปฏิบัติในกรอบของหลักกฎหมาย
สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ อันจะน�าไปสู่การพิจารณากรณีข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย
ปัจจุบันว่า กรณีใดเป็นการเลือกปฏิบัติและกระทบต่อหลักความเสมอภาคตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
24