Page 260 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 260

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
               แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562


               ประชาชนเพื่อท าการวางแผน จัดล าดับความส าคัญ และตัดสินใจเชิงนโยบาย นอกจากนี้ ภาครัฐควรที่จะต้องมีการ
               ก าหนดตัวชี้วัด เป้าหมาย และกลไกการตรวจสอบ ประเมินและกลไกการสร้างความรับผิดชอบ เพื่อสนับสนุนการ
               ท างานให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกเหนือจากการคุ้มครองแล้ว เมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น รัฐจะต้อง

               จัดให้มีการเยียวยา (remedy) ที่เหมาะสม รวมทั้งเรียกร้องให้องค์กรภาคธุรกิจควรจัดให้มีช่องทางในการร้องเรียน
               และเยียวยาเมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นด้วย ไม่ว่าโดยกิจการนั้นเอง หรือการรวมกลุ่มองค์กรภาคธุรกิจที่
               เกี่ยวข้องที่ได้รวมกันเป็นสมาคมธุรกิจ นอกจากจะเป็นมาตรฐานสากลในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็น
               การชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันจะเกิดจากการประกอบธุรกิจ

                       ในขณะเดียวกัน บทบาทของภาครัฐอีกประการหนึ่งที่ส าคัญ คือ การก ากับดูแลรัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาจจะมี

               การด าเนินธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้เช่นเดียวกัน รูปแบบการก ากับดูแลรัฐวิสาหกิจที่เหมาะสม
               อ้างอิงจากค าแนะน าของ OECD  จะเน้นการให้อ านาจบอร์ดบริหารรัฐวิสาหกิจที่ค่อนข้างอิสระในการตัดสินใจ
               ด าเนินธุรกิจ (autonomy) แต่ในขณะเดียวกันภาครัฐก็จะมีกลไกการประเมินและตรวจสอบ (monitoring) เพื่อให้
               แน่ใจว่าการด าเนินธุรกิจของรัฐวิสาหกิจนั้นมีความเหมาะสม ท้ายที่สุดภาครัฐจะมีการก าหนดคุณและโทษที่ชัดเจน

               เพื่อสร้างกลไกการรับผิดชอบ (accountability)  เพื่อสร้างแรงจูงใจให้การด าเนินธุรกิจมีความเคารพต่อสิทธิ
               มนุษยชนอย่างแท้จริง

                       บทบาทที่ส าคัญอีกประการหนึ่งของภาครัฐ คือ กลไกการตรวจสอบและประเมินภายใน (institution) ซึ่ง
               หมายถึง ภาครัฐจะมีกลไกการตรวจสอบและประเมินตนเองว่าได้มีการด าเนินการตามบทบาทที่ควรจะเป็นได้มาก
               น้อยเพียงใด


                       2.  ภาคธุรกิจ/รัฐวิสาหกิจ


                       ภาคธุรกิจ (ในที่นี้หมายรวมถึงบรรษัทข้ามชาติ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด
               หลักทรัพย์ และรัฐวิสาหกิจ) มีหน้าที่เคารพสิทธิมนุษยชน หลักการ UNGP  ได้กล่าวถึงความรับผิดชอบต่อการ
               เคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งได้มีการเรียกร้องให้ธุรกิจหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดหรือสนับสนุนให้เกิดผลกระทบเสียหายต่อ

               สิทธิมนุษยชนผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ของตน และแก้ไขผลกระทบดังกล่าวเมื่อเกิดขึ้น และพยายามป้องกันหรือลด
               ผลกระทบที่เสียหายต่อสิทธิมนุษยชนที่มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการประกอบกิจการของภาคธุรกิจ ผลิตภัณฑ์
               หรือการบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตน แม้ว่าธุรกิจจะไม่ได้มีส่วนสนับสนุนต่อผลกระทบดังกล่าวก็ตาม และเมื่อ

               ภาคธุรกิจรู้ว่าตนเองเป็นผู้ก่อหรือมีส่วนก่อให้เกิดผลกระทบเสียหาย ธุรกิจก็ควรจัดให้มีหรือให้ความร่วมมือในการ
               เยียวยาผ่านกระบวนการที่ชอบธรรม

                       นอกจากบทบาทที่ภาคธุรกิจจะต้องค านึงถึงในแง่ของการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกลุ่มประชาชนทั่วไป
               แล้ว ภาคธุรกิจยังมีบทบาทส าคัญใน 3 ด้าน ประกอบไปด้วย 1. บทบาทในการตรวจสอบและประเมินภายใน
               องค์กร เพื่อสนับสนุนการด าเนินธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน 2. บทบาทในการผลักดันประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน

               เข้าไปจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยสนับสนุนผู้ผลิตสินค้าวัตถุดิบ/สินค้าขั้นกลางที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน รวมทั้งให้
               ความช่วยเหลือ ค าแนะน าแก่ผู้ผลิตในห่วงโซ่อุปทานให้พิจารณาและเลือกที่จะด าเนินธุรกิจโดยเคารพสิทธิ
               มนุษยชนมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนนี้ธุรกิจที่ด าเนินธุรกิจที่มีอ านาจต่อรองอยู่เหนือเครือข่ายเกษตรพันธสัญญาควรที่





                                                             5-33
   255   256   257   258   259   260   261   262   263   264   265