Page 252 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 252
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
นอกจากนี้ กสม. ควรที่จะสนับสนุนภาคสื่อในการท าหน้าที่ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเชิงลึกให้มาก
ยิ่งขึ้นอีกด้วย
2. บทบาทของภาควิชาการในปัจจุบันยังมีบทบาทที่จ ากัด ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นมาจากข้อจ ากัดทางด้าน
ข้อมูล กสม. จึงควรที่จะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาที่ตอบโจทย์ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนกับภาคธุรกิจบนพื้นฐาน
ของความเป็นกลางตามหลักวิชาการ และควรที่จะท าหน้าที่เป็นคลังข้อมูลเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา (เช่น
ข้อมูลมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อสรุปจากผลงานวิจัยเชิงลึก ตัวอย่าง
กรณีศึกษาที่ประสบความส าเร็จและไม่ประสบความส าเร็จของทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น) รวมทั้งการเผยแพร่
ความรู้ไปยังกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มต่างประเทศ
ในส่วนของกลุ่มต่างประเทศ จะมีสถานการณ์ที่ส าคัญ คือ
1. ต่างประเทศมีการพัฒนามาตรฐานและกฎระเบียบใหม่ๆ ที่เป็นหลักสากลเพื่อที่จะดูแลปัญหาการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยภาคธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น กสม. จึงควรที่จะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่เปิดรับเอามาตรฐาน
ใหม่ๆ มาผลักดันให้เกิดการปรับใช้ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
2. ต่างประเทศมีกลไกการเฝ้าระวังและตรวจสอบปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยภาคธุรกิจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจข้ามชาติ และธุรกิจที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว กสม. จึง
ควรที่จะเข้าไปมีบทบาทในการร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล และประสานข้อมูลที่ส าคัญให้กับหน่วยงานภาครัฐในการ
ด าเนินการต่อไป
3. การเสนอรายงานทบทวนสิทธิมนุษยชนของประเทศตามกลไก UPR ช่วยผลักดันภาครัฐให้เห็นถึง
ความส าคัญของการจัดการปัญหาด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน จึงเป็นโอกาสที่ กสม. จะเข้ามามีส่วนสนับสนุนการ
ท างานของภาครัฐ โดยให้ข้อมูลเชิงเทคนิคและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภาครัฐ
5.2.3 สถานการณ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนที่สะท้อนจากมุมมองของผู้เข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อย
ในส่วนนี้จะเป็นการสังเคราะห์สถานการณ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนในภาพรวมจากข้อมูล
แบบสอบถามที่ได้จากผู้เข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อย โดยค าถามในภาพรวมจะแบ่งออกเป็น 6 ข้อ ประกอบไปด้วย
ค าถามหลัก 1 ค าถามที่สะท้อนถึงขนาดของปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในปัจจุบัน และ 5 ค าถามที่สะท้อนถึง
ความสามารถในการจัดการปัญหาของแต่ละภาคส่วน โดยในการส ารวจจะแบ่งภาคส่วนออกเป็น 5 กลุ่มที่ส าคัญ
ได้แก่
1. ความพอเพียงและความเหมาะสมของกฎหมาย/กฎระเบียบและมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนและการ
ประกอบธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน
2. บทบาทของภาครัฐในปัจจุบันในการคุ้มครองและดูแลจัดการปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนและการ
ประกอบธุรกิจ
5-25