Page 250 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 250
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
5.2.2 สถานการณ์ส าคัญด้านสิทธิมนุษยชนจากในและต่างประเทศ และแนวโน้มด้านสิทธิมนุษยชน
และการประกอบธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการด าเนินการตามแผนฯ
ในส่วนนี้จะเป็นการน าเสนอสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ส าคัญที่ กสม. ควรจะมีบทบาทเกี่ยวข้อง โดย
การน าเสนอจะจ าแนกออกเป็นรายกลุ่ม รวม 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มภาคภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ กลุ่มภาคธุรกิจ กลุ่ม
สังคม/ประชาชนทั่วไป กลุ่มภาคีร่วมอื่นๆ (ประชาสังคม สื่อและภาควิชาการ) และกลุ่มต่างประเทศ ดังนี้
กลุ่มภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ
ในส่วนของกลุ่มภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจจะมีสถานการณ์ที่ส าคัญคือ
1. ภาครัฐก าลังด าเนินการจัดท าแผน NAP ซึ่งทาง กสม. ควรจะมีบทบาทในการให้ค าปรึกษากับภาครัฐ
2. รัฐบาลไทยได้เข้าร่วมภาคีสนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ แต่ยังพบปัญหาใน 2 มิติ ได้แก่
มิติความครอบคลุมที่ภาครัฐยังไม่เข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาองค์การระหว่างประเทศบางฉบับ และมิติของการ
ผลักดันกฎหมายให้ครอบคลุมตามสนธิสัญญาที่ได้ท าการรับรอง ในส่วนนี้ ทาง กสม. ควรเข้ามาให้ค าแนะน าทั้งใน
แง่ของความเหมาะสม และความจ าเป็นในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาที่เหลือ และในแง่ของความไม่สอดคล้องกัน
ระหว่างกฎหมายที่บังคับใช้อยู่กับมาตรฐานที่ควรจะเป็น
3. ภาครัฐเริ่มให้ความส าคัญเป็นพิเศษกับบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการ
ประกอบธุรกิจ เช่น กรณีการค้ามนุษย์ ในความเห็นของคณะผู้วิจัยมองว่า กสม. ควรมีการก าหนดกลุ่มประเด็น
ปัญหาเฉพาะที่สอดคล้องกับภาครัฐ เพื่ออาศัยโอกาสที่ภาครัฐให้ความสนใจเพื่อให้ข้อมูลแนวทางการแก้ไขปัญหาที่
เหมาะสม
4. ภาครัฐยังขาดการเชื่อมโยงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเข้ากับแผนพัฒนาของประเทศอย่างชัดเจนและ
ครอบคลุม การผลักดันในเชิงนโยบายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐจะมีการพัฒนาได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับทาง กสม. ว่า
จะสามารถผลักดันการเชื่อมโยงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่ส าคัญเข้ากับแผนพัฒนาของประเทศได้มากน้อย
เพียงใด
กลุ่มภาคธุรกิจ
ในส่วนของกลุ่มภาคธุรกิจจะมีสถานการณ์ที่ส าคัญ คือ
1. ภาคธุรกิจยังมีความรู้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสิทธิมนุษยชนที่ค่อนข้างจ ากัด บทบาทใน
การให้ข้อมูลและการสร้างความตระหนักรู้จึงเป็นบทบาทที่ส าคัญที่ควรจะด าเนินการ
2. ภาคธุรกิจให้ความร่วมมือกับ กสม. ในการให้ข้อมูลเมื่อถูกร้องถามในระดับที่ดี แต่ในความเป็นจริง
ภาคธุรกิจก็ยังคงมีความกังวลในบทบาทของ กสม. อยู่ การปรับบทบาทของ กสม. ให้ท างานในเชิงบวกมากยิ่งขึ้น
เช่น การสร้างภาคีต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอาจจะช่วยปรับภาพลักษณ์ขององค์กรได้ดี
3. ภาคธุรกิจยังขาดการบูรณาการกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนเข้ากับระบบประเมินความ
เสี่ยงของธุรกิจ ดังนั้น กสม. ควรที่จะผลักดันเผยแพร่คู่มือ HRDD ในภาคปฏิบัติ และควรให้ค าแนะน าทางเทคนิค
5-23