Page 12 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 12

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
               แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแร่งชาติ พ.ศ. 2560-2562


               สิทธิมนุษยชนจากรัฐวิสารกิจรรือบริษัทที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐนั้นยังคงมีอยู่น้อยมาก แม้ว่าภาครัฐจะได้

               เข้ามาถือรุ้นในกิจการของรัฐวิสารกิจ แต่การก ากับดูแลและประเมินรัฐวิสารกิจยังคงมีอย่างจ ากัด ท าใร้
               ช่องว่างของการเคารพสิทธิมนุษยชนของภาคเอกชนจึงยังคงมีอยู่  รลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิ

               มนุษยชนท าใร้แนวทางการเคารพสิทธิมนุษยชนของภาคธุรกิจเริ่มใร้ความส าคัญมากขึ้นตามล าดับ จนเกิดการ

               น าไปสู่การจัดตั้งคณะท างานแร่งสรประชาชาติว่าสิทธิมนุษยชนและบรรษัทข้ามชาติและองค์กรธุรกิจอื่น (UN
               Working  Group  on  the  issue  of  human  rights  and  transnational  corporations  and  other

                                                   4
               business  enterprises) ในปี พ.ศ. 2554  และการจัดท าข้อเสนอแนะเพื่อจัดท าแผนปฏิบัติการแร่งชาติว่า
               ด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (National Action Plan on Business and Human Rights : NAP)

                       ในส่วนของบทบาทสถาบันสิทธิมนุษยชนแร่งชาตินั้น ได้มีการรารือของคณะกรรมการประสานงาน

               ระรว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแร่งชาติ (International  Coordinating  Committee  of  National
               Institutes for Promotion and Protection of Human Rights : ICC) ครั้งที่ 10 โดยที่ประชุมได้เร็นชอบ

               รลักการร่วมกันโดยเร็นควรใร้สถาบันสิทธิมนุษยชนแร่งชาติมีส่วนร่วมเข้าไปจัดการประเด็นปัญราด้านธุรกิจ

               และสิทธิมนุษยชน โดยได้มีการจัดท าปฎิญญาร่วมกัน เรียกว่า “ปฏิญญาเอดินเบอระ” ขึ้น ท าใร้สถาบัน
               สิทธิมนุษยชนแร่งชาติในรลายๆ ประเทศเข้ามามีบทบาทในการจัดการประเด็นปัญราด้านธุรกิจและ

               สิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแร่งชาติก็ได้ใร้ความส าคัญกับประเด็น

               ดังกล่าว โดยบรรจุประเด็นสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจใร้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการ
               สิทธิมนุษยชนแร่งชาติ พ.ศ. 2560-2565 ด้วย


                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแร่งชาติ (กสม.) จัดตั้งขึ้นเพื่อเปนนกลไกการส่งเสริมและคุ้มครอง
               สิทธิมนุษยชนระดับประเทศที่ก่อตั้งตามรัฐธรรมนูญแร่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และ

               พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแร่งชาติ พ.ศ. 2542 โดยมีการก ารนดที่มา สถานะ บทบาทรน้าที่

               และแนวทางด าเนินงานขององค์กรใร้สอดคล้องกับแนวทางและมาตรฐานเกี่ยวกับคุณลักษณะ และบทบาทที่
               พึงมีของสถาบันสิทธิมนุษยชนแร่งชาติตามรลักการว่าด้วยสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแร่งชาติ เพื่อการ

               ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รรือที่เรียกกันว่ารลักการปารีส (Paris Principles) ดังนั้น กสม. ซึ่งถือว่า

               เปนนสถาบันสิทธิมนุษยชนแร่งชาติ จึงจ าเปนนที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการประเด็นปัญราด้านธุรกิจ
               และสิทธิมนุษยชน สร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระรว่างภาคธุรกิจโดยใร้ความส าคัญกับการเคารพ

               สิทธิมนุษยชนเพื่อลดความขัดแย้งกับชุมชนและสังคม ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืน

               ทางสังคม




               4
                   OHCHR. (2011). “UN Working Group on the issue of human rights and transnational corporations
                   and other business enterprises.” [ระบบออนไลน์]. แรล่งที่มา http://www.ohchr.org/EN/Issues/Business/
                   Pages/WGHRandtransnationalcorporationsandotherbusiness.aspx



                                                           1-2
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17