Page 21 - รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 21
เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ กสม. ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับแผนปฏิบัติการประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๕๕ โดยให้คงวิสัยทัศน์
พันธกิจ ประเด็นความส�าคัญในการแก้ไขปัญหาเชิงประเด็น ๕ ประเด็น และพื้นที่จุดเน้นการด�าเนินงานเช่นเดิม แต่ให้ปรับเพิ่มเป้าประสงค์
และยุทธศาสตร์จากเดิม เป้าประสงค์ ๔ ด้าน และยุทธศาสตร์ ๙ ยุทธศาสตร์ เป็นเป้าประสงค์ ๕ ด้าน และยุทธศาสตร์ ๑๑ ยุทธศาสตร์
รายละเอียดตามแผนภาพที่ ๓ ดังนี้
แผนภาพที่ ๓ แผนยุทธศาสตร์ กสม. พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๙ (การปรับครั้งที่ ๑ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕)
ยุทธศาสตร
๑. พัฒนาความรูความเขาใจสิทธิมนุษยชน ยุทธศาสตร
ในกลุมเปาหมายสำคัญ และ ๑. พัฒนาองคความรู ศักยภาพ และการมีสวนรวมของบุคลากร
ใหสิทธิมนุษยชนเปนวิถีชีวิต พัฒนาและ ๒. พัฒนาระบบ กลไกและกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล
๒. สรางกลไกลและกระบวนการในการ สรางความเขมแข็ง
เฝาระวัง ตรวจสอบ การเขาถึงสิทธิ องคกร
การคุมครองในพื้นที่เสี่ยงและกลุมเสี่ยง
๓. สรางระบบการคุมครองสิทธิมนุษยชนที่
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ บทบาท กสม. เปนสถาบัน
กระบวนการ ภาคธุรกิจ ที่ไดรับความยอมรับ
ยุติธรรม
ประชาชนเขาใจ เชื่อถือทั้งในประเทศ
เขาถึงและไดรับ และสากล
การสงเสริมและ
คุมครองสิทธิ พื้นที่ ยุทธศาสตร
ภาคใต
๓. แสดงบทบาทนำและสรางบรรทัดฐาน
กลุมผูเสี่ยงตอการ สิทธิชุมชนกับ ดานสิทธิมนุษยชน
ถูกละเมิดหรือไดรับ การจัดสรร ๔. ติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติตามหลักการ
การปฏิบัติที่ไมเปนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิมนุษยชนและพันธกรณีระหวางประเทศ
ยุทธศาสตร การใชหลัก
๖. ผลักดันการปฏิรูปกระบวนการ ขันติธรรม
ยุติธรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน ตามหลัก
๗. ขับเคลื่อนนโยบาย กฎหมายที่เกิด เสนอนโยบาย สิทธิมนุยชน
ผลกระทบรุนแรงตอสังคม และ กฎหมายและ สากล ยุทธศาสตร
มาตรการในพื้นที่และกลุมเปาหมาย มาตรการที่มีพลัง ระดับพลัง ๕. เชื่อมโยง สงเสริม สนับสนุนและระดมการ
เฉพาะ ภาคีเครือขาย มีสวนรวมของภาคีเครือขายทั้งในและ
๘. ผลักดันกลไกและมาตรการให ระหวางประเทศ
ภาคธุรกิจเคารพสิทธิมนุษยชน
ต่อมา ในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์การ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและตามพันธกรณี
ชุมนุมทางการเมืองและสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีการใช้ความรุนแรง ระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว นอกจากนี้ มาตรา ๓๕ วรรค
กระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ และการด�ารงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน สอง ยังได้บัญญัติให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาถึง
รวมทั้งสภาพการเมือง การปกครอง และการบริหารราชการแผ่นดิน ความจ�าเป็นและความคุ้มค่าที่ต้องมีองค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือองค์กร
ที่ชะงักงัน จนน�าไปสู่การเข้ายึดและควบคุมอ�านาจการปกครอง ที่ก่อตั้งขึ้นโดยอาศัยอ�านาจตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ในการพิจารณา
ประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและได้มีประกาศคณะรักษา ถึงทิศทางการด�าเนินงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ นอกจากการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับรองตามรัฐธรรมนูญแล้ว
ให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ้นสุดลง การปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ยกเว้น หมวด ๒ โดยให้องค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๒ ยังต้องให้ความส�าคัญกับการพัฒนาการด�าเนินการของ
ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ซึ่งมีผลให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์กรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในระดับที่ท�าให้ได้รับการ
ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ยอมรับว่า มีความจ�าเป็นและความคุ้มค่าในการเป็นองค์กรที่จะได้รับ
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งต่อมาได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง การก่อตั้งขึ้นโดยอาศัยอ�านาจตามรัฐธรรมนูญต่อไป
ราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๒๒
กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยในมาตรา ๔ ได้มีการรับรองและคุ้มครองศักดิ์ศรี การที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในฐานะเป็น
ความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทย สถาบันแห่งชาติที่ท�าหน้าที่เป็นกลไกการส่งเสริมและคุ้มครอง
เคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบ สิทธิมนุษยชนภายในประเทศที่เชื่อมโยงกับกลไกหลักของ
รายงานผลการปฏิบัติงานประจ�าปี ๒๕๕๘ 20 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

