Page 14 - สิทธิของบุคคลในครอบครัว กรณีการกล่าวคำสาบานตนก่อนเบิกความเป็นพยานในศาลของแต่ละศาสนามีความแตกต่างกัน
P. 14

โดยการกล่าวคำาสาบานหรือการปฏิญาณก่อนเบิกความต่อศาล ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้อง
                    กับความน่าเชื่อถือของพยาน  เมื่อพยานได้สาบานหรือให้คำาปฏิญาณต่อศาลแล้ว ก็อนุมานได้ว่า

                    พยานมีความน่าเชื่อถือในเบื้องต้น  โดยในทางปฏิบัติจะมีการติดข้อความแบบคำาสาบานที่ให้พยาน
                    กล่าวต่อศาลไว้ภายในคอกพยาน  ซึ่งโดยส่วนใหญ่การกล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณจะเป็นไป

                    ตามแบบตัวอย่างที่ระบุไว้ในคู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ  และไม่มีการกล่าวถึงครอบครัว
                    แต่อย่างใด  ส่วนศาลบางแห่งที่ตัวอย่างคำาสาบานอาจจะมีการกล่าวถึงครอบครัวอยู่ เนื่องจากอาจจะ

                    ยังไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และคู่มือปฏิบัติราชการ
                    ของตุลาการ  ซึ่งในการกล่าวถึงครอบครัวนั้น เนื่องจากในสมัยโบราณ ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธจะให้

                    ความสำาคัญกับครอบครัว  โดยครอบครัวควรได้รับการเคารพนับถือและได้รับการปกป้อง  ฉะนั้น
                    ถ้าพยานมีความกล้าที่จะกล่าวคำาสาบานโดยก้าวล่วงไปถึงครอบครัว แสดงว่า บุคคลนั้นเป็นผู้ที่มี

                    ความน่าเชื่อถือในระดับสูง  และเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อของพยานให้มีมากขึ้น ในกรณีที่แบบ
                    ตัวอย่างคำาสาบานของศาลบางแห่งไม่ได้ใช้ข้อมูลตามที่ระบุไว้ในคู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ

                    อาจเป็นไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น ศาลจังหวัดชุมพร อาจกล่าวถึง
                    พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนใน

                    ท้องถิ่นนั้นให้ความเคารพนับถือ เป็นต้น
                                  จากกรณีตามคำาร้อง  การที่ศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์มีการกล่าวถึงครอบครัว

                    แต่ศาสนาอิสลามไม่มีการกล่าวถึงครอบครัวนั้น  โดยศาลเห็นว่า ไม่น่าที่จะเป็นการเลือกปฏิบัติ
                    โดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องของความเชื่อทางศาสนา  เนื่องจาก

                    แต่ละศาสนาจะมีแนวคิด ความเชื่อ วัฒนธรรม และจารีตประเพณีที่แตกต่างกันออกไป  โดยขึ้นอยู่กับ
                    บริบทของแต่ละศาสนา

                                  ในการกล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณก่อนเบิกความต่อศาล เนื่องจากเป็นบทบัญญัติ
                    ของกฎหมายที่จะต้องดำาเนินการ  และเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือของพยาน ในกรณีที่พยานมีการ

                    เบิกความแล้วแต่พยานไม่ได้กล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณก่อนเบิกความซึ่งอาจทำาให้กระบวนการ
                    พิจารณาไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  โดยการเบิกความของพยาน

                    ในครั้งนั้นจะรับฟังไม่ได้  เนื่องจากพยานไม่ได้กล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณก่อนเบิกความ จึงทำาให้
                    ไม่มีความน่าเชื่อถือ หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นถ้าสามารถแก้ไขได้ก็อาจมีการให้แก้ไขโดยการส่งสำานวน

                    กลับไปที่ศาลชั้นต้นเพื่อเรียกพยานมาเบิกความ  โดยให้พยานกล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณก่อน
                    เบิกความ  เมื่อพยานได้กล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณแล้วก็สามารถรับฟังคำาเบิกความของ

                    พยานได้  แต่ในบางกรณีที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น พยานเสียชีวิตแล้ว ฯลฯ  คำาเบิกความของพยานที่
                    ไม่ได้กล่าวคำาสาบานหรือคำาปฏิญาณในครั้งนั้น ก็ไม่สามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ซึ่งจะทำาให้

                    ขาดพยานหลักฐานในส่วนนี้  แต่ในบางกรณีศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาอาจไม่ส่งสำานวนกลับไปยัง
                    ศาลชั้นต้นเพื่อดำาเนินกระบวนพิจารณาใหม่ เนื่องจากคำาเบิกความของพยานไม่มีน้ำาหนักในการรับฟัง

                    เป็นพยานหลักฐาน




                                                                                                          13

                                              สิทธิของบุคคลในครอบครัว กรณีการกล่าวคำาสาบานตนก่อนเบิกความเป็นพยานในศาลของแต่ละศาสนามีความแตกต่างกัน
                                         ทำาให้กระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว ซึ่งเป็นการกระทำาที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19