Page 19 - สิทธิของบุคคลในครอบครัว กรณีการกล่าวคำสาบานตนก่อนเบิกความเป็นพยานในศาลของแต่ละศาสนามีความแตกต่างกัน
P. 19
พิจารณาโดยผู้พิพากษาหรือตุลาการที่นั่งพิจารณาคดีครบองค์คณะ และการได้รับทราบเหตุผลประกอบ
คำาวินิจฉัย คำาพิพากษา หรือคำาสั่ง
๔.๒ ประมวลกฎหมายอาญา
ม�ตร� ๑๗๑ ผู้ใดขัดขืนคำาสั่งของศาลให้สาบาน ปฏิญาณให้ถ้อยคำา หรือเบิกความ ต้องระวาง
โทษจำาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ
๔.๓ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ม�ตร� ๑๑๒ ก่อนเบิกความพยานทุกคนต้องสาบานตนตามลัทธิศาสนาหรือจารีตประเพณี
แห่งชาติของตน หรือกล่าวคำาปฏิญาณว่าจะให้การตามความสัตย์จริงเสียก่อน เว้นแต่
(๑) พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท หรือผู้สำาเร็จราชการแทนพระองค์
(๒) บุคคลที่มีอายุต่ำากว่าสิบห้าปี หรือบุคคลที่ศาลเห็นว่าหย่อนความรู้สึกผิดและชอบ
(๓) พระภิกษุและสามเณรในพุทธศาสนา
(๔) บุคคลซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าไม่ต้องให้สาบานหรือกล่าวคำาปฏิญาณ
๕. คว�มเห็นคณะอนุกรรมก�รตรวจสอบก�รละเมิดสิทธิมนุษยชนด้�นกฎหม�ย
และก�รปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
๕.๑ ความเห็นคณะอนุกรรมการฯ
คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและการปฏิบัติที่
ไม่เป็นธรรมได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยตลอดแล้วเห็นว่า ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๑๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ก่อนเบิกความพยานทุกคนต้อง
สาบานตนตามลัทธิศาสนาหรือจารีตประเพณีแห่งชาติของตน หรือกล่าวคำาปฏิญาณว่าจะให้การ
ตามความสัตย์จริงเสียก่อน” และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๑ บัญญัติว่า “ผู้ใด
ขัดขืนคำาสั่งของศาลให้สาบาน ปฏิญาณให้ถ้อยคำาหรือเบิกความ ต้องระวางโทษจำาคุกไม่เกินหกเดือน
หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ” ซึ่งจากบทบัญญัติของกฎหมายได้ระบุไว้อย่าง
ชัดเจนว่า ผู้ที่จะให้การต่อศาลต้องกล่าวคำาสาบานตนหรือกล่าวคำาปฏิญาณก่อนเบิกความ หากไม่
ปฏิบัติตามจะต้องได้รับโทษตามที่ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ ซึ่งในการกล่าวคำาสาบานหรือ
กล่าวคำาปฏิญาณจะเป็นไปตามลัทธิศาสนาหรือจารีตประเพณีที่แต่ละคนนับถือ โดยมีความเกี่ยวข้อง
กับเรื่องของความเชื่อและการเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือ และเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือของ
พยาน ซึ่งศาลได้กำาหนดรูปแบบตัวอย่างคำาสาบานของแต่ละศาสนาเพื่อให้เกิดความสะดวกในการ
กล่าวคำาสาบานหรือการปฏิญาณ โดยในการกล่าวคำาสาบานหรือการกล่าวคำาปฏิญาณก่อนเบิกความ
ต่อศาล มีตัวอย่างฎีกาที่ตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย ตามคำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๙๖๒/๒๕๔๗
โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นดำาเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็น
ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ผู้ถูกกล่าวหามิได้ฎีกาในปัญหา
ดังกล่าว ศาลฎีกามีอำานาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๒ (๕)
ประกอบด้วยมาตรา ๒๔๖ และมาตรา ๒๔๗ พิพากษายกคำาสั่งของศาลชั้นต้นและคำาพิพากษา
18
สิทธิของบุคคลในครอบครัว กรณีการกล่าวคำาสาบานตนก่อนเบิกความเป็นพยานในศาลของแต่ละศาสนามีความแตกต่างกัน
ทำาให้กระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว ซึ่งเป็นการกระทำาที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐