Page 15 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 15
14 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗
้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐได้มีนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมลำา โดยออก
กฎหมาย และมาตรการต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคทางเพศ การมีนโยบายหรือ
มาตรการช่วยเหลือแก่คนพิการ และผู้สูงอายุในลักษณะการสร้างการอยู่ร่วมกันภายในสังคม (Social
Inclusion) และการจัดการศึกษาเพื่อการส่งเสริมพหุลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรม เป็นต้น แต่ก็ยัง
ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน
อุปสรรคสำาคัญที่พบ ได้แก่ การกระจุกตัวหรือรวมศูนย์อำานาจการตัดสินใจไว้ที่หน่วยราชการ
ส่วนกลาง รวมถึงการดำาเนินนโยบายที่รวมศูนย์อำานาจครอบคลุมในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านการจัดการ
ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการเมืองการปกครอง ตลอดจนการที่ประชาชนและชุมชน
ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และขาดการมีส่วนร่วมในการกำาหนดนโยบายและตัดสินใจอย่างแท้จริง
นอกจากนั้น ยังมีปัญหาในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งมีความรุนแรง
ยิ่งขึ้นจากโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมและโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งมักพบว่า การดำาเนินโครงการ
ของทั้งรัฐและเอกชนมิได้เคารพสิทธิของประชาชนและชุมชนที่ได้รับการประกันตามรัฐธรรมนูญ
หลายโครงการมิได้มีการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ตลอดจนกระบวนการประเมินผลดังกล่าว ขาดความเป็นอิสระและไม่ครบถ้วนเพียงพอตามหลักวิชาการ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานและสวัสดิการจากรัฐได้อย่างทั่วถึง และ/
หรือมีคุณภาพที่เพียงพอ เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มคนพิการ กลุ่มคนชายขอบ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มเด็กและสตรี
อีกทั้งกลไกสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการคิดและตัดสินใจ ยังไม่เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้เข้าไป
มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำาให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ตลอดจนไม่สามารถ
ตอบสนองต่อความต้องการ หรือแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้อย่างแท้จริง
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในปี ๒๕๕๗ ในภาวะที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้
การปกครองของรัฐบาลที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดจนการประกาศใช้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และอยู่ในระหว่างการร่าง
รัฐธรรมนูญฉบับถาวร กสม. เห็นความสำาคัญที่รัฐบาลจะต้องส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
โดยยึดหลักการปกครองโดยระบบนิติรัฐและนิติธรรม การใช้กฎหมายพิเศษ ตลอดจนการจำากัดและลิดรอน
สิทธิเสรีภาพควรกระทำาเท่าที่จำาเป็นและได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับความรุนแรงของสถานการณ์เท่านั้น
นอกจากนี้ รัฐควรเปิดโอกาสรับฟังความเห็นของประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำาเนิน
นโยบายและมาตรการของรัฐอย่างแท้จริง
สำาหรับข้อท้าทายหรือปัญหาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น การที่สังคมไทยกำาลังจะก้าว
เข้าสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” ในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า ปัญหาการเคลื่อนย้ายคนข้ามพรมแดน
ทั้งที่เป็นแรงงาน ผู้ลี้ภัย ผู้แสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจ รวมถึงกระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติของ
การค้ามนุษย์ ตลอดจนการลงทุนของธุรกิจข้ามพรมแดน ล้วนก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มี
แนวโน้มเพิ่มสูง และซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเตรียมการป้องกัน
และแก้ไขปัญหาให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต