Page 111 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 111
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
ขอ 11 ภายในพื้นที่ที่ไดรับหนังสืออนุญาตใหทําการปลูกสรางสวนปาหรือปลูกไมยืนตนนั้น
ถาปรากฏวามีไมขึ้นอยูกีดขวางการดําเนินงานตามแผนการที่ไดกําหนดไว ใหผูรับอนุญาตตัดฟนออกได
เทาที่จําเปนภายในขอบเขตตามแผนการประจําปนั้น ๆ เทานั้น
ขอ 12 บรรดาไมที่ไดตัดฟนลงตามขอ 11 ที่ใชประโยชนได ใหถือวายังเปนของรัฐ หามมิให
ทําลายหรือสุมเผาไมทิ้งเปนอันขาด ผูรับอนุญาตจะตองรักษาไวมิใหสูญหายหรือเสียหายและใหเปนหนาที่
ของจังหวัดทองที่ปานั้นหรือหนวยงานที่กรมปาไมกําหนดตรวจทําบัญชีประทับตราตามลักษณะของไมที่จะ
นําไปใชประโยชน ยกเวนไมฟนไมตองประทับตรา และเสนอจําหนายใหแกผูรับอนุญาตในอัตราสองเทา
คาภาคหลวงสําหรับไมกระยาเลยหรือไมฟน และสามเทาคาภาคหลวงสําหรับไมสัก ถาผูรับอนุญาตไมรับซื้อ
ใหทําการประมูลจําหนายตามระเบียบวาดวยการพัสดุตอไป
ขอ 13 ในบริเวณที่ทําการปลูกสรางสวนปาหรือปลูกไมยืนตนนั้น ถาผูรับอนุญาตประสงค
จะทําการตัดสางขยายระยะไมที่ไดปลูกขึ้นเพื่อการบํารุงสวนปา ใหกระทําไดโดยแจงใหจังหวัดทองที่หรือ
หนวยงานที่กรมปาไมกําหนดทราบกอนตัด เพื่อจังหวัดหรือหนวยงานที่กรมปาไมกําหนดจะไดสั่งเจาหนาที่
ตรวจใหตัดฟนและขายใหแกผูรับอนุญาตตามอัตราที่กรมปาไมกําหนด
ขอ 14 เมื่อผูรับอนุญาตประสงคจะทําไมที่ปลูกไวเพื่อนําไปใชประโยชน ใหยื่นเรื่องราว
ตอหนวยงานที่กรมปาไมกําหนดเพื่อออกใบอนุญาตทําไมใหแกผูรับอนุญาตเปนอันดับแรก โดยใหผูรับอนุญาต
ชําระคาภาคหลวงตามอัตราที่กําหนดในกฎกระทรวง
กรณีสวนราชการเขาดําเนินการตามโครงการพระราชดําริหรือโครงการเพื่อความมั่นคง และกรณี
การขยายเขตระบบจําหนวยไฟฟาใหหมูบาน คณะรัฐมนตรีไดมีมติเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2536 และ
เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2539 ตามลําดับ ผอนผันใหดําเนินการในพื้นที่ปาไมที่ขออนุญาตไดไปพลางกอน
โดยใหสวนราชการเจาของโครงการยื่นคําขออนุญาตโดยเรงดวนภายใน 15 วัน นับแตวันที่ไดเขาทําประโยชน
1.3) พระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ พ.ศ. 2504
กฎหมายอุทยานแหงชาติ มีประเด็นที่เกี่ยวของกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายประการ ดังนี้
หมวด 1 การกําหนดที่ดินใหเปนอุทยานแหงชาติ
มาตรา 6 เมื่อรัฐบาลเห็นสมควรกําหนดบริเวณที่ดินแหงใดที่มีสภาพธรรมชาติเปนที่นาสนใจ
ใหคงอยูในสภาพธรรมชาติเดิมเพื่อสงวนไวใหเปนประโยชนแกการศึกษาและรื่นรมยของประชาชน ก็ใหมีอํานาจ
กระทําไดโดยประกาศพระราชกฤษฎีกาและใหมีแผนที่แสดงแนวเขตแหงบริเวณที่กําหนดนั้นแนบทาย
พระราชกฤษฎีกาดวย บริเวณที่กําหนดนี้เรียกวา “อุทยานแหงชาติ”
ที่ดินที่จะกําหนดใหเปนอุทยานแหงชาตินั้น ตองเปนที่ดินที่มิไดอยูในกรรมสิทธิ์หรือครอบครอง
โดยชอบดวยกฎหมายของบุคคลใดซึ่งมิใชทบวงการเมือง
90 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”