Page 211 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยผลกระทบธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่กับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 211
202
(๑) ธุรกิจคาปลีกหรือคาสง ซึ่งมีขนาดพื้นที่ของสถานที่ประกอบธุรกิจแหงใด หรือสาขาใด สาขา
หนึ่ง และ/หรือ มีรายไดของสถานประกอบธุรกิจแหงใดแหงหนึ่ง หรือสาขาใด สาขาหนึ่งตามที่กําหนดใน
กฎกระทรวง
(๒) ธุรกิจคาปลีกหรือคาสงซึ่งไดรับอนุญาตจากผูประกอบธุรกิจธุรกิจคาปลีกหรือคาสง (๑) หรือ
จากผูหนึ่งผูใดใหไดสิทธิในทรัพยสินทางปญญา หรือสิทธิอยางอื่น เพื่อประกอบธุรกิจภายในระยะเวลาหรือ
เขตพื้นที่ที่กําหนด และการประกอบธุรกิจนั้นอยูภายใตการสงเสริมและควบคุมตามแผนดําเนินธุรกิจของ
บุคคลที่อนุญาตนั้น โดยผูประกอบธุรกิจคาปลีกหรือคาสงมีหนาที่ตองจายคาตอบแทนการใชสิทธิดังกลาว
พื้นที่ของสถานประกอบธุรกิจขายสินคา หมายความถึงพื้นที่รวมของทุกชั้นภายในอาคารและพื้นที่
ภายนอกที่ใชประกอบกิจการการขายสินคา พื้นที่ที่ใหบุคคลอื่นเชาและคลังสินคาที่อยูในบริเวณเดียวกัน
หรือเกี่ยวเนื่องกับพื้นที่ที่ใชประกอบกิจการการขายสินคา
มาตรา ๒๑ เพื่อประโยชนในการกํากับดูแลการประกอบธุรกิจปลีกหรือคาสงตามมาตรา ๒๐
คณะกรรมการตองคํานึงถึงการอยูรวมกันของธุรกิจคาปลีกหรือคาสงรายใหญและธุรกิจคาปลีกหรือคาสง
รายยอย ธุรกิจคาปลีกหรือคาสงสมัยใหม และธุรกิจคาปลีกหรือคาสงแบบดั้งเดิม ความเปนธรรมตอผูผลิต
สินคาขนาดกลางและขนาดเล็ก ผลประโยชนและความประสงคของผูบริโภคในพื้นที่ วัฒนธรรม ประเพณี
และสภาพสังคมในแตละพื้นที่ รวมทั้งบทบาทของผูประกอบการธุรกิจคาปลีกหรือคาสงในการสนับสนุนการ
สงออกสินคาไทยและการกระจายสินคา สินคาเกษตรหรือผลิตภัณฑชุมชนในพื้นที่ดวย เพื่อประโยชนในการ
ดําเนินดังกลาว ใหรัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ มีอํานาจกําหนดหลักเกณฑ วิธีการและเงื่อนไข
การขออนุญาต และในการพิจารณาออกใบอนุญาตแตละประเภท หรือในการกํากับดูแลธุรกิจคาปลีกหรือ
คาสงเปนไปตามมาตรา ๒๑ คณะกรรมการตองคํานึงถึงหลักการพื้นฐานในการพิจารณา ดังตอไปนี้
(๑) โดยปกติแลว ธุรกิจคาปลีกหรือคาสงรายใหญสมัยใหม ควรมีที่ตั้งสถานประกอบธุรกิจใน
บริเวณรอบนอกเขตชุมชน ในการพิจารณาอนุญาตผูประกอบธุรกิจคาปลีกหรือคาสงรายใหมในเขตพื้นที่
ชุมชนคณะกรรมการจะตองคํานึงถึงขนาดพื้นที่ของสถานประกอบการธุรกิจที่ขออนุญาต ขนาดพื้นที่ และ
การกระจายตัวของผูประกอบธุรกิจคาปลีกหรือคาสงที่มีอยูเดิมในพื้นที่และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตอการ
แขงขันในเขตพื้นที่นั้นๆ และความหนาแนนของประชากรในพื้นที่
(๒) ในกรณีที่พื้นที่พิจารณามีผูประกอบการธุรกิจคาปลีกหรือคาสงอยูหนาแนน ทั้งขนาดใหญและ
ขนาดเล็ก ทั้งธุรกิจคาปลีกหรือคาสงสมัยใหมและแบบดั้งเดิม และไดเกิดผลกระทบตอการประกอบธุรกิจ
ของผูประกอบการธุรกิจคาปลีกหรือคาสง ใหคณะกรรมการมีอํานาจในการกําหนดเวลาเปด เวลาปด หรือ
เวลาทําการของธุรกิจคาปลีกหรือคาสงในพื้นที่ได ทั้งนี้ใหใชมาตรการนี้เมื่อมีความจําเปนและไมมีหนทางอื่น
ใดในการเยียวยาผลกระทบตอผูประกอบการธุรกิจคาปลีกหรือคาสงรายยอยดั้งเดิมในพื้นที่ แตตองมีการ
หารือกับผูมีสวนไดสวนเสียในพื้นที่ เพื่อกําหนดเวลามาตรการที่จําเปนรวมกัน
(๓) ในกรณีที่มีการรองเรียนวาสัญญาระหวางผูประกอบธุรกิจคาปลีกหรือคาสงโดยเฉพาะผูประกอบ
ธุรกิจคาปลีกหรือคาสงรายใหญ มีเงื่อนไขไมเปนธรรมตอผูผลิต หรือผูจําหนายสินคาใหคณะกรรมการมีอํานาจ
ในการเรียกขอมูลจากทุกฝายที่เกี่ยวของ เพื่อประกอบการพิจารณาไกลเกลี่ย หาขอยุติที่เปนธรรม หรือควบคุม
สัญญาระหวางผูประกอบธุรกิจคาปลีกหรือคาสง และผูผลิตหรือผูจําหนายสินคาได
(๔) กํากับดูแลสัญญาระหวางผูประกอบธุรกิจคาปลีกหรือคาสงที่ใหใชสิทธิทรัพยสินทางปญญาและ
ผูไดรับอนุญาตใหใชสิทธิในทรัพยสินทางปญญา
(๕) ในกรณีที่เกิดความขัดแยงรุนแรงในพื้นที่ที่พิจารณา ใหคณะกรรมการเริ่มดําเนินการรับฟง
ความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ดังกลาวซึ่งรวมถึงขั้นตอนการประชุมปรึกษา รวมทั้งการประกาศเชิญ
ชวนโดยทั่วไปใหประชาชนในชุมชนสงตัวแทนเขารวมประชุม การลงทะเบียนเขาประชุม และระยะเวลา
ลวงหนาที่เหมาะสมใหแกประชาชนในชุมชนทราบ ในกรณีที่จําเปนใหสํารวจความเห็นของประชาชน หากมี