Page 221 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 221
ตารางวิเคราะห์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต ารวจละเมิดสิทธิมนุษยชนจ านวน 109 คดี
ความเห็นคณะกรรมการสิทธิฯ ความเห็นของคณะผู้วิจัย
พฤติการณ์โดยย่อ (ผู้วิจัยสรุป)
ข้อเสนอแนะของผู้
ความเห็นผู้ตรวจสอบ ความเห็น ประเภทที่ละเมิด สาเหตุการละเมิด
ตรวจสอบ
1. ในวันที่ 10 มีนาคม 2547 ผู้ร้องกําลังทํางานอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน 1. คิดว่าผลจากการตรวจพิสูจน์ 1. ควรตั้ง 1. มีเหตุอันควรสงสัยว่าถูก 1. ทําร้ายร่างกาย 1.1 เจตนาหรือจง
จังหวัดลพบุรี ได้ถูก จนท.ตร.จับกุมข้อหาลักเครื่องสูบน้ําและนําตัวส่งไปยัง บาดแผลนั้นมีลักษณะขัดกับ คณะกรรมการ จนท.ตร. ทําร้าย เพราะมีบาดแผล ใจหรือลุแก่
สภ.คลองขลุง คําให้การของ จนท.ตร.ประกอบ สอบสวนการปฏิบัติ ปรากฎจากการถูกกระจกบาด และ อํานาจหรือใช้
2. ระหว่างถูกควบคุมได้ถูกนําตัวไปยังห้องสืบสวนที่มีลักษณะเป็นห้องแถว กับมีรอยฟกช้ําที่ท้องของผู้ร้องเป็น หน้าที่ของ จนท.ตร.ชุด แพทย์มีความเห็นเพิ่มเติม อํานาจเกินขอบเขต
3. การสอบสวนในห้องดังกล่าว ผู้ร้องได้ถูก จนท. ตร.ดังกล่าวใส่กุญแจมือ จํานวนมาก จึงเชื่อว่าบาดแผล ดังกล่าว สอดคล้องกับคําให้การผู้ร้องว่า มี ไม่ปฏิบัติหน้าที่
ไขว่หลัง เอาผ้าปิดตาและเอาถุงคลุมศีรษะแล้วเอาเทปรัดคอให้หายใจไม่ออก
4. การสอบสวนครั้งที่ 2 จนท.ตร.ดังกล่าวก็ทําอีกในลักษณะเช่นเดิม ดังกล่าวเกิดจากการกระทําของ 2. ควรมีการจัดอบรม บาดแผลฟกช้ําตามร่างกายอีกหลาย ตามกฎหมาย
5. การสอบสวนครั้งที่ 3 จนท.ตร.ได้ถีบผู้ร้องไปถูกกระจกบานเกล็ดประตู จนท.ตร. เจ้าหน้าที่ให้เน้นการ แห่ง
จนได้รับบาดแผลที่ไหล่ขวา ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
6. แล้วจากนั้น จนท.ตร.ก็จับผู้ร้องส่งโรงพยาบาลคลองขลุง พ.ศ.2540
คําให้การเจ้าหน้าที่ตํารวจ
- จนท.ตร.อ้างว่าผู้ร้องนั้นได้รับสารภาพแล้วต่อมาก็ได้คิดจะพยายาม
หลบหนี ซึ่งได้วิ่งไปชนบานเกล็ดประตูจนเกิดบาดแผลดังกล่าวขึ้น ซึ่ง
ขณะนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่ตํารวจควบคุมตัวอยู่ เพราะไปเข้าห้องน้ํา แต่โชคดีที่
ได้ล็อคประตูดังกล่าวเอาไว้
1. คุณหญิงจันทนีฯ กรรมการสิทธิฯ ได้ไปตรวจเยี่ยมทัณฑสถาน กรณีรับฟังได้ว่าเจ้าหน้าทีตํารวจทํา - 1. ตํารวจข่มขู่ผู้ต้องหา และต่อมา 1. ทําร้ายร่างกาย 1.1 เจตนาหรือจง
หญิงและตรวจสอบว่ามีนักโทษรายใดถูกซ้อมหรือทรมานหรือไม่ ร้ายร่างกายผู้ร้องจริง จึงให้ ตํารวจ ภายหลังได้โกหกว่าจะจ่ายเงิน ใจหรือลุแก่
และได้มีผู้ร้องร้องเรียนต่อกรรมการสิทธิฯดังกล่าว ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ร้องจนเป็นที่ ค่าเสียหายและดําเนินการกับ ตร. ที่ อํานาจหรือใช้
พอใจ และให้สตช.ดําเนินการทาง ซ้อม อํานาจเกินขอบเขต
2. ผู้ร้องกล่าวว่า ตนถูกจับกับเพื่อนในข้อหาร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ใน อาญาและวินัยต่อเจ้าหน้าที่ที่ 2. และที่ผู้ต้องหาบอกว่าถูกสามี ไม่ปฏิบัติหน้าที่
ครอบครองเพื่อจําหน่าย ตนได้ปฏิเสธเพราะตํารวจค้นไม่เจอที่ผู้ กระทําผิดต่อไป ซ้อม แสดงว่ากลัวอิทธิพลตํารวจ ตามกฎหมาย
ร้องแต่ได้ไปค้นเจอที่เพื่อนผู้ร้อง ตํารวจจึงทําร้ายร่างกายผู้ร้องและ และไม่อยากมีเรื่องเพราะถูกขู่มา
ส่งฟ้อง อยากให้จบ ๆ ไป
3.ศาลลงโทษจําคุก 3 ปี
4. ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว นางอนงค์กมลบอกว่าตนโดนสามีทํา
ร้าย ไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่จากที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าผู้ร้อง
โดนทําร้ายร่างกายจริง แต่ตํารวจบอกว่าจะชดใช้ค่าเสียหายเพื่อปิด
ปาก และอ้างว่าจะดําเนินการทางวินัยกับตํารวจผู้นั้น แต่จริง ๆแล้ว
มิได้กระทําการ