Page 212 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 212

ตารางวิเคราะห์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต ารวจละเมิดสิทธิมนุษยชนจ านวน 109 คดี

                                                     ความเห็นคณะกรรมการสิทธิฯ           ความเห็นของคณะผู้วิจัย
                     พฤติการณ์โดยย่อ (ผู้วิจัยสรุป)
                                                                 ข้อเสนอแนะของผู้
                                                 ความเห็นผู้ตรวจสอบ               ความเห็น    ประเภทที่ละเมิด สาเหตุการละเมิด
                                                                   ตรวจสอบ
            1.เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2542 ผู้ถูกละเมิดได้ถูกจับกุมในข้อหาลัก การที่เจ้าหน้าที่ได้สั่งไม่ให้ผู้ถูก  ให้ ตร. ยกเลิกค าสั่ง  1. เห็นว่าเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจใน  1. ตรวจคนเข้า  1.1 ปกิบัตืหน้าที่
            ทรัพย์และต่อมาศาลได้พิพากษาลงโทษจ าคุกและปรับ โทษจ าคุก  ละเมิดเข้าประเทศเป็นเวลา 100 ปี  ห้ามผู้ถูกละเมิดเข้า  การสั่งห้ามผู้ละเมิดเข้าประเทศ เป็น เมือง  โดยไม่เหมาะสม
            นั้นให้รอการลงโทษ                โดยกล่าวว่าผู้ถูกละเมิดเข้าข่าย   ประเทศและแก้ไข  เวลา 100 ปี ไม่เหมาะสม ควรมี
            2.ทางส านักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ห้ามให้ผู้ถูกละเมิดเข้าประเทศ มาตรา 12 (6)และ(7)ตาม  ระเบียบเกี่ยวกับการใช้ คณะกรรมการกลั่นกรอง หรือ
            เนื่องจากผู้ถูกละเมิดได้กระท าความผิดอาญาและศาลได้พิพากษา  พระราชบัญญัติตรวจค้นเข้าเมืองนั้น ดุลพินิจและควรเสนอ  บุคคลภายนอกร่วมเป็น
            ลงโทษและผู้ถูกละเมิดเป็นบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีรายชื่อบุคคล  เป็นการใช้ดุลพินิจและละเมิดสิทธิ ให้สภาผู้แทนราษฎรแก้ คณะกรรมการฯอยู่ด้วย ถึงแม้จะใช้
            ต้องห้ามเข้าประเทศและไม่สามารถถอนได้ต้องได้รับอนุญาตจาก  มนุษยชนอย่างยิ่ง   กม. ให้เหมาะสมต่อไป อ านาจตามกฎหมายก็ตาม  กรณี
            รัฐมนตรี                                                        การห้ามเข้าประเทศตามกฎหมาย
                                                                            บัญญัติว่า บุคคลที่มีพฤตอการณ์ที่
                                                                            น่าเชื่อเป็นภัยแก่สังคม หรือจะก่อ
                                                                            เหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความ
                                                                            สงบสุขของประเทศหรือความ
                                                                            ปลอดภัยของประชาชน
            1  ตามวันเวลาเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าทําการตรวจค้นคลินิกผู้  1.  ให้ ตร.ออกคําสั่งตรวจสอบการ  -  1.การล่อซื้อโดยใช้ผู้ป่วยของผู้ถูก  1. การจับ  1.1 ขาดจิตสํานึก
            ร้องแจ้งว่ามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 4 จําหน่าย  ดําเนินการของผู้ถูกกล่าวหา  ละเมิดล่อซื้อ ถือว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจ  และจรรยาบรรณ
            โดยผิดกฎหมาย ผู้ร้องแสดงหลักฐานเป็นจิตแพทย์ ผู้ถูกกล่าวหาได้ 2.  ให้ ตร.พิจารณาว่าวีธีการล่อซื้อ  สามารถกระทําได้โดยชอบด้วย  วิชาชีพในการ
            เปลี่ยนข้อหาว่า จําหน่ายยาโดยไม่มีใบคําสั่งแพทย์และจับกุมตัวไป กระทําการได้เพียงใดในขอบเขต  กฎหมาย ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้าม  ปฏิบัติหน้าที่
            ดําเนินคดี                       อย่างไรและมีมาตรการอย่างไรใน   ไว้                        รวมทั้งขาดการ
            2  คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้ให้นายเม็งฯ ซึ่งเป็นคนไข้ผู้ร้อง มาทําการ  การปฏิบัติเมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติ  2. การที่ พงส. พูดว่า "ให้รับ  ฝึกอบรมอย่าง
            ล่อซื้อยาซึ่งเป็นวิธีการแสวงหาพยานหลักฐานที่ไม่เป็นธรรม ผู้ถูก  รับรองให้กระทําการเช่นนั้น  สารภาพเสีย จะฟ้องให้เสร็จใน  เพียงพอและ
            กล่าวหาขอให้ผู้ถูกละเมิดรับสารภาพจะฟ้องให้เสร็จในวันรุ่งขึ้น   3 การบริหารคดีของ ตร.ถึงจํานวน  วันรุ่งขึ้น" เช่นนี้ถือว่าเป็นการจูงใจ  ต่อเนื่อง
            ในระหว่างที่ถูกควบคุมคํารับสารภาพของผู้ถูกละเมิดจึงเป็นเหตุจูง ปริมาณคดีที่จับกุมผู้ต้องหา  ผู้ต้องหาให้รับสารภาพ  2. การสอบสวน 2.1 เจตนาหรือจง
            ใจให้รับสารภาพ                   เปรียบเทียบกับประสิทธิผลหรือ                              ใจหรือลุแก่
                                             คุณภาพในการสอบสวนได้ปฏิบัติ                               อํานาจหรือใช้
                                             เป็นธรรมกับผู้ต้องหามากน้อย                               อํานาจเกินขอบเขต
                                             เพียงใด                                                    ไม่ปฏิบัติหน้าที่
                                                                                                       ตามกฎหมาย
   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216   217