Page 95 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 95

รับผิดชอบชีวิตและอนำคตของตนเองและคู่รัก ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับสมำคมเครือข่ำยผู้ปกครอง

                       แห่งชำติ

                     กำรสอนเพศศึกษำในโรงเรียนโดยอำจำรย์ และกิจกรรมต่ำงๆ โดยเจ้ำหน้ำที่จำกกระทรวง

                       สำธำรณสุขหรือกระทรวงศึกษำธิกำรตำมโครงกำรเพื่อป้ องกันกำรตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมของเยำวชน
                       ในกำรวิจัยครั้งนี้พบว่ำส่วนใหญ่ มักจัดกิจกรรมในห้องประชุมขนำดใหญ่ที่มีนักเรียนจ ำนวนมำก

                       ซึ่งท ำให้วิทยำกรหรืออำจำรย์ให้ควำมรู้ได้ไม่ทั่วถึง และมีกลุ่มนักเรียนที่สนใจจ ำนวนน้อยอยู่แถว

                       หน้ำเท่ำนั้น ขณะที่แถวหลังไม่ได้ให้ควำมสนใจและจำกโครงกำรต่ำงๆ มักเป็นกำรฉำยวิดิทัศน์

                       เรื่องเกี่ยวกับกำรท ำแท้งที่น่ำกลัวเพื่อให้เยำวชนหญิงหวำดกลัวกำรท ำแท้งไปจนถึงกำรมี
                       เพศสัมพันธ์ และกำรรักนวลสงวนตัว เป็นกำรให้ควำมรู้ยังคงเป็นเรื่องกำรป้ องกันกำรมีเพศสัมพันธ์

                       มำกกว่ำกำรมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย แม้จะมีกำรให้ข้อมูลกำรใช้ถุงยำงอนำมัยก็ตำม มำกไปกว่ำ

                       นั้น เนื่องจำกเป็นจัดกิจกรรมที่อำศัยพื้นที่สำธำรณะ มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจ ำนวนมำก ท ำให้เยำวชน

                       รู้สึกไม่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวที่จะตั้งค ำถำม ทั้งเรื่องกำรตั้งครรภ์ และกำรมีเพศสัมพันธ์ท ำให้ไม่
                       สำมำรถบรรลุสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ได้ ขณะเดียวกันกิจกรรมต่ำงๆ ไม่ได้ให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจ

                       เกี่ยวกับสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ กิจกรรมต่ำงๆ ที่จัดขึ้นจึงขำดกำรสื่อสำรสองทำง

                     เมื่อเกิดกำรตั้งครรภ์ไม่พร้อมขึ้น สิ่งแรกที่เยำวชนหญิงในวัยเรียนค ำนึงถึงคือ “กำรหมดอนำคต”

                       เพรำะรู้มำว่ำกำรท้องนั้นผิดกฎของโรงเรียน ต้องถูกจ ำหน่ำยออก ท ำให้นักเรียนชำยต้องปิดเป็น

                       ควำมลับ แม้ว่ำจะทรำบจำกสื่อต่ำงๆ ว่ำ โรงเรียนไม่สำมำรถจ ำหน่ำยนักเรียนตั้งครรภ์ออกจำก

                       โรงเรียนได้ เพรำะเป็นกำรละเมิดสิทธิมนุษยชนในด้ำนกำรศึกษำและพระรำชบัญญัติกำรศึกษำ
                       แห่งชำติ แต่ทัศนคติของเยำวชนทั้งหญิงและชำยที่มีต่อเรื่องนี้ทุกคนเห็นพ้องกันว่ำ สภำพแวดล้อม

                       และบริบทสังคมยังไม่เปิดกว้ำงและเข้ำใจในประเด็นสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ และยอมรับกำร

                       ตั้งครรภ์ของเยำวชน ท ำให้เยำวชนตั้งครรภ์รู้สึกอับอำยและทนไม่ได้กับสำยตำคนมองอย่ำงดูหมิ่น

                       ภำยในสถำนศึกษำ ซึ่งจำกกำรวิจัยพบว่ำ เยำวชนหลำยคนเลือกที่ท ำแท้งไม่ปลอดภัยเพื่อจะได้
                       เรียนหนังสือต่อ หรือหลำยคนที่ตั้งครรภ์ต่อเลือกที่จะไม่ไปโรงเรียนหรือออกจำกโรงเรียนก่อนถูก

                       จ ำหน่ำยออก น ำไปสู่กำรขำดกำรศึกษำ โดยไม่ทรำบว่ำยังมีโรงเรียนบำงโรงเรียน เช่น โรงเรียน

                       หนองชุมแสงวิทยำ จ.เพชรบุรีที่เข้ำใจปัญหำกำรท้องในวัยรุ่นและได้จัดบริกำรกำรศึกษำตำม

                       พระรำชบัญญัติกำรศึกษำให้กับเยำวชนหญิงตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมและเยำวชนที่ประสบปัญหำใน

                       ด้ำนอื่นๆ จนต้องย้ำยหรือถูกจ ำหน่ำยออกจำกโรงเรียน ในรูปแบบกำรจัดกำรศึกษำนอกเวลำปกติ
                       ซึ่งจำกกำรวิจัยพบว่ำ เยำวชนชำยหญิงที่ไปสัมภำษณ์ไม่เคยทรำบเรื่องรำวเหล่ำนี้มำก่อนสะท้อน

                       ให้เห็นว่ำ โรงเรียนที่บริกำรกำรศึกษำส ำหรับเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ไม่เพียงยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่

                       โรงเรียนในลักษณะเช่นนี้มีจ ำนวนไม่เพียงพอต่อปริมำณเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ

                       ต้องออกจำกโรงเรียน




                                                                                                       ๙๔
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100