Page 112 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 112

“นั้นแหละมันก็สะท้อนว่าสังคมไทยไม่รับเรื่องนี้ไง เพราะว่าถ้าเค้าไม่มีคนฟังเค้าก็เลยต้องไปหา

                      เพื่อนไปหาทางออกอะไรของเค้าเอง คือเพื่อนคือคนที่ใกล้ชิดเค้าที่สุดแล้วคือคนที่ฟังเค้าได้ เพราะ
                      ครูก็ไม่ฟังพ่อแม่ก็เล่าให้ฟังไม่ได้ เพราะว่ามันรู้ไงว่าถูกคาดหวังยังไง มันไม่มีช่องให้กับความ

                      ผิดพลาด มันก็เลยสิ่งที่เค้าต้องการคือเรื่องฟัง อันนี้แทบจะทุกกลุ่มที่ท้องไม่พร้อม วัยรุ่นอาจจะ

                      หนักหน่อยกับคนที่ท้องกับที่ไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตน”


                       และจำกกำรสัมภำษณ์เจ้ำหน้ำที่องค์กรพัฒนำเอกชนที่ท ำงำนกับเครือข่ำยสนับสนุนทำงเลือกของ

               ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม (Choices  Network) พบว่ำ ควำมต้องกำรอันดับแรกของเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่

               พร้อมคือ กำรรับฟังอย่ำงตั้งใจ

                         “สิ่งที่ต้องการอันดับแรกเลยคือคนฟัง คือพอมีคนฟังแล้วมันจะค่อยๆ คลี่แล้วมันจะค่อยๆ เห็นว่า
                        มันมีทางออกยังไงบ้างแล้วคนที่..เราคิดว่าหน่วยที่ที่จะมีตรงนี้ได้ก็คือมันก็ต้องมีเรื่องของระบบที่

                        มันมีคนฟังจะเรียกว่าให้ค าปรึกษาหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ก็คือต้องมีตรงนี้ก่อน แล้วระบบตรงนี้มัน

                        อาจจะเป็นหน่วยที่สามารถที่จะให้เห็นช่องทางต่างๆ ที่มันเป็นทางเลือกทางออกของคนแต่ละคน
                        เพราะว่าบางคนกว่าจะมาถึงเรามันก็อายุเกินที่เค้าจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะยุติถึงแม้เค้าอยากจะ

                        ยุติก็ตาม”



                       จำกกำรสัมภำษณ์ผู้ประสำนของเครือข่ำยสนับสนุนทำงเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม (Choices

               Network) มูลนิธิสร้ำงควำมเข้ำใจเรื่องสุขภำพผู้หญิง ท ำให้ผู้วิจัยทรำบข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ำยกำรรวมตัว
               กันของ เครือข่ำย Choice ๖๐ กว่ำหน่วยงำนที่เข้ำมำร่วมกันในกำรท ำงำนสนับสนุนช่วยเหลือให้คนท ำงำน

               จำกภำครัฐและองค์กรพัฒนำเอกชนได้มีเครือข่ำยในกำรท ำงำนเชื่อมโยงกันอย่ำงเป็นระบบ โดยมีกำร

               ประชุม ๒  เดือนครั้งและมีกำรขยำยเครือข่ำยโดยกำรท ำงำนแบบกำรบอกต่อและชักชวนเป็นห่วงโซ่โดยมี

               ปรำกฏกำรณ์กำรทิ้งซำกศพเด็กที่วัดไผ่เงินเป็นเหตุจูงใจดังนี้
                         “เรื่องของเหตุการณ์ ๒๐๐๒ ศพ นั้นแหละมันก็จะเป็นข่าวที่มัน..พอมันดังปุ๊บอะไรปุ๊บเครือข่ายก็

                        ออกไปให้ความรู้ ไปให้ข้อมูลที่แท้จริง นั้นก็เป็นช่องทางนึงที่ท าให้เครือข่ายเข้ามาเยอะเหมือนกัน

                        ก็เหมือนมันช่วยลดขั้นตอนการท างานของเค้าได้ ถ้าเกิดเข้ามาในเครือข่าย   ไม่งั้นการท างาน

                        ของเค้าจะ..เหมือนกับต้องท าเบ็ดเสร็จคนเดียวเลยจนสิ้นสุดปัญหาหนึ่งเคส ซึ่งความจริงเค้าไม่
                        ต้องท าอย่างนั้นก็ได้ สมมติว่าช่วยเหลือไปเมื่ออยู่บ้านพักเสร็จแล้วอยากกลับไปอยู่บ้านก็มี

                        หน่วยงานในพื้นที่รองรับไปสิในจังหวัดนั้นๆใช่มั้ยคะก็ประสานงานกันซึ่งมันจะง่ายขึ้นเมื่อเค้าไม่

                        ต้องตามไปดูแลถึงที่ หรือว่าจะยุติการตั้งครรภ์ในเมื่อเค้าเป็นแค่หน่วยการให้ค าปรึกษาแล้ว
                        ให้บริการเสร็จก็ส่งต่อไปให้หน่วยอื่นได้  แล้วหน่วยนั้นก็จะติดตามหลังจากที่ให้บริการเสร็จ









                                                                                                      ๑๑๑
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117