Page 2 - คู่มือพนักงานเจ้าหน้าที่
P. 2
อารัมภบท
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ได้ก าหนดให้คณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีหน้าที่ตรวจสอบ และรายงานการกระท าหรือการเลยการกระท าอันเป็น
การละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือประสานงานระหว่างหน่วยราชการ
องค์การเอกชน และองค์การอื่น เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ทั้งภายในประเทศและระหว่าง
ประเทศ
ภารกิจดังกล่าวมีขอบเขตกว้างขวาง ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย และการ
ปฏิบัติหน้าที่นี้จะต้องรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิมนุษยชนได้
อย่างแท้จริง แต่โดยที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีหน่วยงานเพียงแห่งเดียวซึ่งตั้งอยู่
ในส่วนกลาเท่านั้น จึงเป็นข้อจ ากัดที่ส าคัญในเรื่องความรวดเร็ว และการเข้าแก้ไขปัญหาได้อย่าง
ถูกต้อง ครบถ้วน ทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเหตุเกิดในพื้นที่ชนบทห่างไกล
การสร้างกลไกขึ้นในพื้นที่ โดยแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่จากหน่วยราชการ และ
ภาคเอกชน ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ตาม พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๖ เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในจังหวัดนั้น ๆ จะท าให้พนักงานเจ้าหน้าที่เหล่านั้นสามารถเข้าท า
การตรวจสอบ หรือแก้ไขได้รวดเร็วกว่า โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง จึงเป็นวิธีหนึ่งเพื่อ
แก้ไขข้อจ ากัดดังกล่าว และยังเป็นการสร้างเครือข่ายขยายบุคลากรด้านส่งเสริมการเคารพและ
การปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นอีกด้วย
ขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ าย ที่มีส่วนร่วมจัดท าคู่มือพนักงานเจ้าหน้าที่เล่มนี้
และขอบคุณ ผู้ได้รับการต่างตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของจังหวัดต่าง ๆ ทุกท่าน ที่จะได้ช่วยกัน
ปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ และประชาชนสืบต่อไป.
พลต ารวจเอก วันชัย ศรีนวลนัด
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรม

