Page 49 - การรวบรวมและวิเคราะห์เปรียบเทียบ รายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำ ชายฝั่ง แร่ และสิ่งแวดล้อม ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (พ.ศ. 2545 - 2550) : (รายงานหลัก)
P. 49
3.3 การแบ่งกลุ่มกรณีในเนื้อหาการร้องเรียนตามฐานทรัพยากร
ั่
จากกรณีร้องเรียนต่อคณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน ้า ชายฝง แร่ และสิ่งแวดล้อม นับแต่ปีพ.ศ.2544
ั
จนถึงเดือนเมษายน 2551 ทั้งสิ้น 247 กรณี คณะผู้ศึกษาได้แบ่งกลุ่มกรณีออกตามลักษณะของปญหาและประเภท
ของโครงการ ได้ดังนี้
ั
ประเด็นฐานทรัพยากรน ้า แบ่งกลุ่มลักษณะปญหาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1) กรณีเกี่ยวกับเขื่อนและ
อ่างเก็บน ้า ฝายขนาดใหญ่ 2) กรณีเกี่ยวกับคลองส่งน ้า 3) กรณีเกี่ยวกับการเปลี่ยนสภาพแหล่ง
น ้าและสร้างสิ่งกีดขวางหรือล่วงล ้าแหล่งน ้า และ 4) กรณีความขัดแย้งในการจัดการน ้า
ั
ั่
ประเด็นฐานทรัพยากรชายฝงทะเล แบ่งกลุ่มลักษณะปญหาออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กรณีเกี่ยวกับ
ั่
โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและโครงสร้างวิศวกรรมชายฝง 2) กรณีเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดิน
ั่
ชายฝงทะเล และ 3) กรณีความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายและกิจกรรมทางทะเลต่างๆ รวมถึงความ
ช่วยเหลือภายหลังธรณีพิบัติภัยสึนามิ
ประเด็นฐานทรัพยากรแร่ จะครอบคลุมถึงฐานทรัพยากรธรณีอื่นๆไว้ด้วย โดยแบ่งกลุ่มลักษณะ
ั
ั
ั
ปญหาออกเป็น 5 กลุ่ม คือ 1) กรณีปญหาจากกิจกรรมเหมืองหินและโรงโม่หิน 2) กรณีปญหา
ั
จากเหมืองแร่ โรงแต่งแร่ และการขนส่งแร่ 3) กรณีปญหาจากการสูบและต้มน ้าเกลือ 4) กรณี
ั
ั
ปญหาจากการขุดดินและดูดทราย และ 5)กรณีปญหาเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดินบริเวณเหมืองแร่เก่า
ั
ั
ั
ประเด็นปญหาด้านสิ่งแวดล้อม แบ่งกลุ่มลักษณะปญหาออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กรณีปญหาจาก
ั
โครงการพัฒนาพลังงานและประเด็นที่เกี่ยวข้อง 2) กรณีปญหาจากมลพิษโรงงานอุตสาหกรรม
ั
และ 3) กรณีปญหาความขัดแย้งในการจัดการสิ่งแวดล้อมอื่นๆรวมถึงความขัดแย้งเชิงนโยบาย
และและแผนงานการพัฒนาที่อาจยังไม่เกิดขึ้น
การจ าแนกและจัดกลุ่มของคณะผู้ศึกษา อาจมีความทับซ้อนในเชิงประเด็นฐานทรัพยากร และลักษณะ
ั
ปญหาอยู่บ้าง เนื่องจากในแต่ละประเด็นอาจมีความทับซ้อนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นฐานทรัพยากรน ้าและกรณี
ั
ั
ปญหาจากน ้าเสียของอุตสาหกรรม หรือ ปญหาเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดินซึ่งเป็นพื้นที่เหมืองแร่เก่าที่อยู่บริเวณชายฝง ั่
ทะเลซึ่งเป็นลักษณะที่พบทั่วไปในภาคใต้ของประเทศไทย นอกจากนี้ในประเด็นฐานทรัพยากรแร่ ซึ่งครอบคลุมถึง
ฐานทรัพยากรดินและทรายก่อสร้างซึ่งจะคาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนสภาพแหล่งน ้า ล าน ้า รวมถึงกรณีมลพิษจากการ
พัฒนาแหล่งพลังงานและอุตสาหกรรม กับมลพิษจากการจัดการสิ่งแวดล้อมแบบอื่น เป็นต้น
ในการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการที่เริ่มจากหลายคณะมาควบรวมกันนับเป็นอีกด้านหนึ่ง (ดูบทที่ 2) ที่
ท าให้เกิดการทับซ้อนของการจัดกลุ่ม ดังตัวอย่างเช่น ในการตรวจสอบกรณีการดูดทรายแม่น ้าของคณะอนุกรรมการ
ั
ั
ที่ดินและน ้ามารวมกับอนุกรรมการเพื่อการศึกษาและตรวจสอบกรณีปญหาเหมืองแร่ คณะผู้ศึกษาจึงน ากรณีปญหา
ั
มาจัดกลุ่มอยู่ในฐานทรัพยากรแร่เนื่องจากมีลักษณะปญหาใกล้เคียงและถือเป็นทรัพยากรธรณีเหมือนกันในเชิง
วิชาการ ในการตรวจสอบกรณีข้อพิพาทที่ดินเหมืองแร่เก่าชายทะเลของคณะอนุกรรมการน ้าและแร่มารวมกับ
ั่
ั
อนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรทางทะเลและชายฝง คณะผู้ศึกษาจึงน ากรณีปญหามารวมกับฐานทรัพยากรกลุ่มข้อ
ั่
ั
พิพาทที่ดินชายฝงทะเล เนื่องจากมีประเด็นปญหาที่ใกล้เคียงกันมากกว่า
นอกจากนี้ภายหลังที่มีการควบรวมคณะอนุกรรมการด้านพลังงานและอุตสาหกรรม จึงท าให้อนุกรรมการ
ั
ชุดนี้สามารถตรวจสอบกรณีร้องเรียนได้ครอบคลุมปญหาสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ดังที่สุดท้ายควบรวมเป็น
ั่
คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน ้า ชายฝง แร่ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเด็นด้านพลังงานและอุตสาหกรรมได้ถือ
ั
รวมเป็นกลุ่มประเด็นปญหาสิ่งแวดล้อมในภาพรวม นอกจากนี้คณะผู้ศึกษาได้จัดกรณีร้องเรียนที่เกี่ยวเนื่องกับ
ั
ทรัพยากรแร่ ได้แก่ กรณีโรงถลุงเหล็กที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดเลยไว้ในกลุ่มประเด็นปญหาสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ใกล้เคียงกับโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่าเหมืองแร่ ทั้งยังมิได้ใช้ฐาน
ั
ทรัพยากรจากเหมืองแร่ในประเทศเป็นหลักอีกด้วย รวมถึงจัดประเด็นปญหาปลาตายในล าห้วยจากข้อสงสัยว่าเกิด
33