Page 11 - วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 (กันยายน - ธันวาคม 2563)
P. 11

10         วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน



            ก�รกระทำ�อันเป็นก�รละเมิดสิทธิมนุษยชน  และเป็นผู้ได้รับผลกระทบจ�กมติของคณะกรรมก�ร
            สิทธิมนุษยชนแห่งช�ติที่ให้ยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่�ว  ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้ได้รับคว�มเดือดร้อนหรือเสียห�ย
            หรืออ�จจะเดือดร้อนหรือเสียห�ย  โดยมิอ�จหลีกเลี่ยงได้อันเนื่องจ�กก�รกระทำ�ของคณะกรรมก�ร
            โดยมีคำ�ขอที่ศ�ลมีอำ�น�จกำ�หนดคำ�บังคับได้ต�มม�ตร�  72  วรรคหนึ่ง  (3)  แห่งพระร�ชบัญญัติจัดตั้ง
            ศ�ลปกครองและวิธีพิจ�รณ�คดีปกครอง พ.ศ. 2542 ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศ�ลปกครอง
                                                       4
            ต�มม�ตร� 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระร�ชบัญญัติเดียวกัน
                    (3) กรณีที่ฟ้องว่�คณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติพิจ�รณ�ตรวจสอบคำ�ร้องล่�ช้� ซึ่งศ�ลได้มี
            คำ�พิพ�กษ�ว่�  นับแต่ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือลงวันที่ 6  กันย�ยน 2556 ร้องเรียนคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชน
            แห่งช�ติได้ดำ�เนินก�รตรวจสอบข้อร้องเรียนและแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทร�บถึงผลก�รพิจ�รณ�ข้อร้องเรียน
            ดังกล่�วแล้ว โดยอ�ศัยอำ�น�จหน้�ที่ต�มม�ตร� 257 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งร�ชอ�ณ�จักรไทย
            พุทธศักร�ช 2550  ซึ่งใช้บังคับขณะที่เกิดเหตุพิพ�ท และพระร�ชบัญญัติคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชน
            แห่งช�ติ พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประช�ชนในฐ�นะผู้บริโภคประกอบกับเมื่อพิจ�รณ�
            ช่วงเวล�ในก�รดำ�เนินก�รของคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติจนกระทั่งตอบข้อร้องเรียนของผู้ฟ้องคดี
            ซึ่งใช้เวล� 1 ปี 5 เดือน ก็ไม่มีข้อเท็จจริงใดที่แสดงให้เห็นว่�คณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติประวิงเวล�
            ในก�รพิจ�รณ�เรื่องร้องเรียนของผู้ฟ้องคดี  เนื่องจ�กในก�รสอบถ�มหน่วยง�นร�ชก�รและเอกชนที่
            เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนนั้น จำ�เป็นต้องใช้เวล�พอสมควรในก�รตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีจึงถือไม่ได้ว่�
            คณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติละเลยต่อหน้�ที่ต�มที่กฎหม�ยกำ�หนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้�ที่
            ดังกล่�วล่�ช้�เกินสมควร 5
                    (4)  กรณีที่คณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติยุติเรื่องร้องเรียนด้วยเหตุที่เป็นเรื่องที่มีก�รฟ้องร้อง
            เป็นคดีในศ�ลหรือที่ศ�ลพิพ�กษ�หรือมีคำ�สั่งเด็ดข�ดแล้ว ต�มม�ตร� 22 แห่งพระร�ชบัญญัติคณะกรรมก�ร
            สิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ พ.ศ. 2542 ถือได้ว่�เป็นก�รกระทำ�ท�งปกครองที่เกิดเป็นข้อพิพ�ทและอยู่ในอำ�น�จ
            พิจ�รณ�พิพ�กษ�ของศ�ลปกครองต�มม�ตร� 9 วรรคหนึ่ง แห่งพระร�ชบัญญัติจัดตั้งศ�ลปกครองและวิธี
            พิจ�รณ�คดีปกครอง พ.ศ. 2542 6

                    เห็นได้ว่�กรณีต�มตัวอย่�งเหล่�นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคว�มอิสระในก�รพิจ�รณ�วินิจฉัย
            ประเด็นก�รละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติเป็นอย่�งยิ่ง  เนื่องจ�กจะทำ�ให้
            ผู้ที่ไม่พอใจผลก�รพิจ�รณ�ตรวจสอบของคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ตินำ�เรื่องไปฟ้องต่อศ�ลเพื่อ
            ขอให้มีก�รแก้ไขผลก�รตรวจสอบให้เป็นไปอย่�งที่ตนต้องก�รแม้ว่�ที่ผ่�นม�ผลก�รพิจ�รณ�พิพ�กษ�ของ
            ศ�ลจะมีคำ�สั่งหรือคำ�พิพ�กษ�ยกฟ้องก็ต�ม  แต่ก�รที่ศ�ลพิจ�รณ�ว่�กรณีก�รใช้อำ�น�จโดยตรงในก�ร
            ตรวจสอบก�รละเมิดสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติต�มรัฐธรรมนูญเป็นคดีที่อยู่ใน
            อำ�น�จพิจ�รณ�พิพ�กษ�ของศ�ล   อ�จมีกรณีที่ศ�ลพิจ�รณ�พิพ�กษ�เพิกถอนมติของคณะกรรมก�ร
            สิทธิมนุษยชนแห่งช�ติได้  ซึ่งจะกระทบต่อคว�มอิสระของสถ�บันสิทธิมนุษยชนระดับช�ติต�มหลักก�ร
            ป�รีสดังที่ได้กล่�วม�แล้วข้�งต้น









                    4  คำ�สั่งศ�ลปกครองสูงสุดที่ 55/2557.
                    5  คำ�พิพ�กษ�ศ�ลปกครองกล�ง คดีหม�ยเลขดำ�ที่ 488/2558 คดีหม�ยเลขแดงที่ 1731/2560 และคำ�พิพ�กษ�ศ�ลปกครองกล�ง
              คดีหม�ยเลขดำ�ที่ 2428/2556 คดีหม�ยเลขแดงที่ 555/2559.
                    6  คำ�สั่งศ�ลปกครองสูงสุดที่ 769/2557.
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16