Page 152 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 152
๗
(๓) ผู้ซึ่งถูกสั่งให้ออกจากราชการในกรณีอื่น นอกจากกรณีไปรับราชการทหารตามกฎหมาย
ว่าด้วยการรับราชการทหาร และกรณีไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามความประสงค์ของทางราชการ แล้วต่อมา
ได้รับบรรจุเข้ารับราชการอีก
ข้อ ๒๒ ถ้าในปีใดข้าราชการผู้ใดมิได้ลาพักผ่อนประจ าปี หรือลาพักผ่อนประจ าปีแล้วแต่ไม่ครบ
สิบวันท าการ ให้สะสมวันที่ยังมิได้ลาในปีนั้นรวมเข้ากับปีต่อ ๆ ไปได้ แต่วันลาพักผ่อนสะสมรวมกับวัน
ลาพักผ่อนในปีปัจจุบันจะต้องไม่เกินยี่สิบวันท าการ
ส าหรับผู้ที่ได้รับราชการติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี ให้มีสิทธิน าวันลาพักผ่อนสะสม
รวมกับวันลาพักผ่อนในปีปัจจุบันได้ไม่เกินสามสิบวันท าการ
ข้อ ๒๓ ข้าราชการซึ่งประสงค์จะลาพักผ่อน ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามล าดับ
จนถึงผู้มีอ านาจอนุญาต และเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะหยุดราชการได้
ข้อ ๒๔ การอนุญาตให้ลาพักผ่อน ผู้มีอ านาจอนุญาตจะอนุญาตให้ลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้
โดยมิให้เสียหายแก่ราชการ
ส่วนที่ ๖
การลาอุปสมบทหรือการลาไปประกอบพิธีฮัจย์
ข้อ ๒๕ ข้าราชการซึ่งประสงค์จะลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา หรือข้าราชการที่นับถือศาสนา
อิสลามซึ่งประสงค์จะลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้เสนอหรือจัดส่ง
ใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามล าดับจนถึงผู้มีอ านาจพิจารณาหรืออนุญาตก่อนวันอุปสมบทหรือก่อนวัน
เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ไม่น้อยกว่าหกสิบวัน
ในกรณีมีเหตุพิเศษที่ไม่อาจเสนอหรือจัดส่งใบลาก่อนตามวรรคหนึ่งได้ ให้ชี้แจงเหตุผลความ
จ าเป็นประกอบการลา และให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอ านาจพิจารณาหรืออนุญาตที่จะพิจารณาให้ลา
หรือไม่ก็ได้
ข้อ ๒๖ ข้าราชการที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาอุปสมบท หรือได้รับอนุญาตให้
ลาไปประกอบพิธีฮัจย์ตามข้อ ๒๕ แล้ว จะต้องอุปสมบทหรือออกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ภายในสิบ
วันนับแต่วันเริ่มลา และจะต้องกลับมารายงานตัวเข้าปฏิบัติราชการภายในห้าวันนับแต่วันที่ลาสิกขาหรือ
วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังจากการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ทั้งนี้ จะต้องนับรวมอยู่ภายใน
ระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตการลา
ข้าราชการที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาอุปสมบท หรือได้รับอนุญาตให้ลาไป
ประกอบพิธีฮัจย์ และได้หยุดราชการไปแล้ว หากปรากฏว่ามีปัญหาอุปสรรคท าให้ไม่สามารถอุปสมบท
141