Page 152 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 152
135
เกิดขึ้นเลยร้อยละ 54.5 เคยเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง ร้อยละ 33.8 และประเด็นการร้องเรียนเรื่องการ
จัดสรรน้้าและการจัดการน้้าต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น หน่วยงาน อบต. เทศบาล หรือ กรมชลประทาน)
ส่วนใหญ่ไม่เคยเกิดขึ้น และ ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ ร้อยละ 39.0 มีการร้องเรียนบางครั้ง ร้อยละ 20.0
ประเด็นการแก้ปัญหาของชุมชนเมื่อมีความขัดแย้งกับหน่วยงานภาคเอกชนหรือภาครัฐ เช่น
กรมชลประทาน อบต./เทศบาล ส่วนใหญ่แต่งตั้งตัวแทนชุมชนไปเจรจา ร้อยละ 75.5 โดยผลจากการ
ด้าเนินงานแก้ปัญหาความขัดแย้ง พบว่า มีความขัดแย้งและความรุนแรงเพิ่มขึ้น ร้อยละ 65.5 และ
ความขัดแย้งได้รับการแก้ไข ร้อยละ 12.3 ประเด็นเรื่องการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และแจ้งข่าวสาร
ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีมีโครงการเกี่ยวกับการจัดการแหล่งน้้าสาธารณะ พบว่ามีการแจ้ง
บางครั้ง ร้อยละ 49.8 แจ้งทุกครั้งร้อยละ 48.3 และไม่เคยแจ้งเลย ร้อยละ 1.5
ตารางที่ 5.21 ค่าสถิติ Chi-square ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและ
สิทธิการใช้น้้ากับความขัดแย้งด้านทรัพยากรน้้าและการแก้ปัญหาตามแนวทางสันติวิธี
พื้นที่ลุ่มน้้าน่าน จังหวัดน่าน
ความขัดแย้งและการแก้ปัญหา ความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและสิทธิการใช้น า
1. ความขัดแย้งด้านการจัดสรรทรัพยากรน้้าเป็นเรื่องปกติ ค่าสหสัมพันธ์ 80.351**
P-Value 0.00
2. ความขัดแย้งด้านการใช้แม่น้้าเป็นเรื่องแก้ไขได้ ค่าสหสัมพันธ์ 38.378*
P- Value 0.003
3. ชุมชนมีปัญหาเรื่องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้้า ค่าสหสัมพันธ์ 89.557**
ในระยะ 5 ปี P- Value 0.00
4. ปัญหาการใช้น้้าอุปโภคบริโภคกับเพื่อนบ้านหรือ ค่าสหสัมพันธ์ 56.312**
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง P- Value 0.00
5. เคยร้องเรียนเรื่องการจัดสรรน้้าและการจัดการน้้าต่อ ค่าสหสัมพันธ์ 73.550**
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง P- Value 0.00
6. ความพึงพอใจต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการ ค่าสหสัมพันธ์ 106.871**
จัดสรรทรัพยากรน้้า P- Value 0.00
7. การแก้ปัญหาของชุมชนเมื่อมีความขัดแย้งกับหน่วยงาน ค่าสหสัมพันธ์ 108.210**
ภาคเอกชนหรือภาครัฐ P- Value 0.00
8. ผลจากการแก้ปัญหาความขัดแย้งกับหน่วยงานภาครัฐ ค่าสหสัมพันธ์ 125.008**
P- Value 0.00