Page 148 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย

131

จากตารางพบว่าความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อประเด็นการบริหารจัดการแหล่งน้้า
สาธารณะ/ธรรมชาติ ส่วนใหญ่มีความถี่ในการท้ากิจกรรมบ่อย และกิจกรรมที่ผู้ตอบแบบสอบถามเข้า

ร่วมบ่อย 3 อันดับแรก ได้แก่ การรับข้อมูลข่าวสารด้านน้้าจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร้อยละ

52.5 การเคารพและการปฏิบัติตามกฎระเบียบของชุมชนต่อการใช้แหล่งน้้าสาธารณะ ร้อยละ 45.8
และการเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือภัยแล้ง ร้อยละ 37.5 กิจกรรมที่ผู้ตอบแบบสอบถามเข้าร่วมปาน

กลาง 3 อันดับแรก ได้แก่ การร่วมกิจกรรมท้าความสะอาดแหล่งน้้า เช่น เก็บขยะ ก้าจัดวัชพืช ร้อย

ละ 39.8 การมีส่วนร่วมในการติดตามและตรวจสอบ ประเมินผลการด้าเนินงานโครงการหรือกิจกรรม
เกี่ยวกับการใช้แหล่งน้้าธรรมชาติของภาครัฐ/ภาคเอกชน ร้อยละ 39.3 และการมีส่วนร่วมในการ

แก้ไขปัญหาความขัดแย้งการใช้น้้าในชุมชน ร้อยละ 37.3 ส่วนกิจกรรมที่ผู้ตอบแบบสอบถามเข้าร่วม

น้อย 2 อันดับ ได้แก่ การร่วมกิจกรรมแก้ปัญหาน้้าเสีย การเข้าร่วมอบรมหาความรู้ด้านการอนุรักษ์
แหล่งน้้าสาธารณะ ในสัดส่วนร้อยละ 27.5 เท่ากัน

ตอนที่ 5 ข้อมูลความคิดเห็นและพฤติกรรมการแสดงออกต่อประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้ง
ด้านทรัพยากรน้้าและการแก้ปัญหาตามแนวทางสันติวิธี

ตารางที่ 5.19 ความถี่และค่าร้อยละความคิดเห็นต่อประเด็นความขัดแย้งด้านทรัพยากรน้้าและการ
แก้ปัญหาตามแนวทางสันติวิธี พื้นที่ลุ่มน้้าน่าน จังหวัดน่าน

ประเด็น จ านวน (n=400) ร้อยละ (%)
1. ความขัดแย้งด้านการจัดสรรทรัพยากรน้้าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้
1.1 ใช่ 118 29.5

1.2 ไม่ใช่ 91 22.8
1.3 ใช่ในบางเรื่อง 177 44.3
1.4 ไม่แน่ใจ 14 3.5

1.5 ไม่ตอบ 0 0.0
2. ความขัดแย้งด้านการใช้แม่น้้าเป็นเรื่องสามารถแก้ไขได้
2.1 แก้ไขได้ทุกเรื่อง 150 37.5

2.2 แก้ไขได้บางเรื่อง 234 58.5
2.3 ไม่สามารถแก้ไขได้เลย 4 1.0
2.4 ไม่แน่ใจ 12 3.0

2.5 ไม่ตอบ 0 0.0