Page 123 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 123
ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (๕) ความคืบหน้าหรือผลการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษแทนผู้เสียหาย
ว่าด้วยการติดตามผลการด าเนินการด้านสิทธิมนุษยชน (๖) การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน
พ.ศ. ๒๕๖๔ กรณีกรรมการพบเห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและจ าเป็นต้องด าเนินการโดยเร่งด่วน
(๗) ข้อเสนอในรายงานผลการปฏิบัติงานประจ าปี
(๘) ข้อเสนอในรายงานคู่ขนานตามหนังสือสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณี
โดยที่เป็นการสมควรก าหนดให้มีระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วย
การติดตามผลการด าเนินการด้านสิทธิมนุษยชน ที่จะต้องปฏิบัติตามที่จัดท าโดยคณะกรรมการ
อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๕ วรรคสอง มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๗ (๙) ข้อเสนอในรายงานคู่ขนานการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (Universal Periodic Review)
มาตรา ๓๘ มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๘ วรรคสอง และ ของประเทศไทยที่จัดท าโดยคณะกรรมการ
มาตรา ๔๙ (๙) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (๑๐) กรณีอื่นตามที่คณะกรรมการก าหนด
พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๖ ระยะเวลาตามที่ก าหนดไว้ในระเบียบนี้ ส านักงานอาจเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
ย่นหรือขยายได้ตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ให้แสดงเหตุผล ความจ าเป็น หรือข้อขัดข้อง ที่ต้องย่นหรือขยาย
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยการติดตาม
ผลการด าเนินการด้านสิทธิมนุษยชน พ.ศ. ๒๕๖๔” ระยะเวลาในแต่ละเรื่องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการด้วย
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจ าเป็น ส านักงานอาจเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแต่งตั้งพนักงาน
๑
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
เจ้าหน้าที่ให้ท าหน้าที่ติดตามผลการด าเนินการกรณีหนึ่งกรณีใดก็ได้ ทั้งนี้ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยการนั้น
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
“กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงประธาน ข้อ ๘ กรณีที่ระเบียบนี้ก าหนดให้ส านักงานติดตามผลการด าเนินการที่เสนอต่อรัฐสภาหรือ
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วย คณะรัฐมนตรี การนับระยะเวลาตามระเบียบนี้ ให้นับตั้งแต่วันที่ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
“ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส านักงานเลขาธิการวุฒิสภา หรือส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี ได้รับเรื่อง
มาตราที่อ้างถึงในระเบียบนี้ ให้หมายถึงมาตราของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ข้อ ๙ กรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือมีหลักฐานอื่นใดว่ารัฐสภา คณะรัฐมนตรี หน่วยงานของรัฐ
ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ หรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี ได้ด าเนินการตามรายงานหรือข้อเสนอแนะของคณะกรรมการแล้ว
ส านักงานอาจน าข้อเท็จจริงหรือหลักฐานนั้นเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไปตามระเบียบนี้ก็ได้
ข้อ ๔ ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรักษาการตามระเบียบนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หมวด ๒
เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด การติดตามผลการด าเนินการด้านสิทธิมนุษยชน
หมวด ๑
บททั่วไป ส่วนที่ ๑
การติดตามมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสม
ในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ข้อ ๕ ให้ส านักงานติดตามผลการด าเนินการด้านสิทธิมนุษยชนที่เสนอต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี
หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
(๑) มาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน ข้อ ๑๐ การติดตามผลการด าเนินการตามข้อ ๕ (๑) ให้ส านักงานมีหนังสือติดตามผลการ
(๒) ข้อเสนอแนะในรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ ด าเนินการตามมาตรการหรือแนวทางจากหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง ภายในสิบห้าวันนับแต่
(๓) ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้ง วันที่ครบก าหนดระยะเวลาที่ต้องด าเนินการตามมาตรการหรือแนวทางหรือระยะเวลาที่คณะกรรมการ
การแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค าสั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน อนุญาตให้ขยาย แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้ก าหนดให้หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนนั้นแจ้งผลการด าเนินการ
(๔) ข้อเสนอในการสร้างเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมตระหนักถึงความส าคัญของสิทธิมนุษยชน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ข้อ ๑๑ กรณีที่ส านักงานมีหนังสือติดตามผลการด าเนินการแล้ว แต่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชน
๑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๘/ตอนที่ ๑๗ ก/หน้า ๑๒/๑๐ มีนาคม ๒๕๖๔ ที่เกี่ยวข้อง มิได้แจ้งผลการด าเนินการหรือเหตุผลที่ไม่อาจด าเนินการได้ตามมาตรา ๓๖ วรรคสาม
114