Page 111 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 111
ข้อ ๖ ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม นอกจากกรณีตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากบุคคลตามข้อ ๕ (๒)
ดังต่อไปนี้ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการ
(๑) เป็นบุคคลตามข้อ ๕ และปฏิบัติงานมาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือน หมวด ๓
(๒) ผ่านการอบรมหลักสูตรส าหรับพนักงานเจ้าหน้าที่และผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์และ การปฏิบัติหน้าที่และการก ากับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
วิธีการที่ส านักงานก าหนด
(๓) ไม่มีส่วนได้เสียกับงานที่จะปฏิบัติ หรืออาจให้หรือได้รับประโยชน์โดยมิชอบจากการปฏิบัติ ข้อ ๑๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งเพื่อท าหน้าที่ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
หน้าที่นั้นๆ ด าเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยการนั้น และที่ก าหนดไว้
(๔) ไม่เคยถูกคณะกรรมการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน ในค าสั่งแต่งตั้ง
(๕) ไม่อยู่ระหว่างการถูกด าเนินการทางวินัยหรือด าเนินการทางจริยธรรม
กรณีตาม (๒) คณะกรรมการอาจมีมติยกเว้นได้ แต่ต้องจัดให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งดังกล่าวเข้ารับ ข้อ ๑๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ
การอบรมภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่ส านักงานก าหนด สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะกรรมการอาจก าหนดให้มีหัวหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้สั่ง
และควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยก็ได้
หมวด ๒
หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง และการพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ข้อ ๑๓ กรณีมีการกล่าวหาว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กฎ
ระเบียบ หรือมาตรฐานทางจริยธรรม ให้ส านักงานด าเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วรายงานต่อ
ข้อ ๗ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๕ (๒) ให้กระท าได้เท่าที่จ าเป็นและสมควรแก่กรณี คณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้นั้นและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานต้นสังกัดของผู้นั้นด้วย
ข้อ ๑๔ กรณีที่ความปรากฏว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ ๘ ให้ส านักงานพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งตามข้อ ๖ ระเบียบ มติคณะกรรมการ หรือด้วยเหตุอื่นใดที่คณะกรรมการก าหนด ให้ส านักงานเสนอคณะกรรมการ
ที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือส านักงานเห็นสมควรแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และเสนอต่อ เพื่อพิจารณาสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้นั้นหยุด ระงับ แก้ไขการกระท าใดๆ หรือด าเนินการอื่นใดตามที่
คณะกรรมการเพื่อพิจารณา เห็นสมควร
ให้ประธานกรรมการเป็นผู้มีอ านาจออกบัตรประจ าตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อ ๑๕ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ
ให้ส านักงานจัดท าบัตรประจ าตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง โดยให้น ากฎหมาย ของส านักงาน ทั้งนี้ ตามระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยการนั้น
ว่าด้วยบัตรประจ าตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐและกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับโดยอนุโลม ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปและกลับจากที่อยู่
บัตรประจ าตัวพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นอันยกเลิกเมื่อมีเหตุตามข้อ ๑๐ หรือที่พักหรือที่ปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากบุคคลตามข้อ ๕ (๒) เพื่อปฏิบัติ
หน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายด้วย
๓
ข้อ ๙ ค าสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องก าหนดหน้าที่ที่มอบหมายให้ชัดเจน และให้ก าหนด
ระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่นั้นไว้ในบัตรประจ าตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อ ๑๖ ในการปฏิบัติหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจ าตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อ
ให้ประธานกรรมการเป็นผู้ลงนามในค าสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๐ พนักงานเจ้าหน้าที่พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อ บทเฉพาะกาล
(๑) ตาย
(๒) ครบก าหนดระยะเวลาตามค าสั่งแต่งตั้ง ข้อ ๑๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ เป็นพนักงาน
(๓) ด าเนินการตามหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตามระเบียบนี้ต่อไป เว้นแต่คณะกรรมการจะมีค าสั่งเป็นอย่างอื่น
(๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๖ การใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับที่ได้ด าเนินการไปแล้ว
(๕) คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ และยังไม่แล้วเสร็จ ให้การด าเนินการนั้นเป็นอันใช้ได้ และให้ด าเนินการต่อไปตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑
๓ ข้อ ๙ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง วัส ติงสมิตร
และการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
102