Page 21 - สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำคุกถูกจำกัดสิทธิในการเข้ารับราชการ
P. 21
โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษดังกล่าว มีการกำาหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามกรณีที่เคย
ได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุก เว้นแต่เป็นโทษสำาหรับความผิดที่ได้กระทำาโดย
ประมาทหรือความผิดลหุโทษ แต่ไม่มีการระบุข้อยกเว้นให้มีการใช้ดุลพินิจยกเว้นลักษณะต้องห้าม
เกี่ยวกับกรณีที่เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุก เว้นแต่เป็นโทษสำาหรับความผิดที่ได้
กระทำาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ จึงทำาให้ไม่มีลักษณะของการยืดหยุ่นในการบังคับใช้กฎหมาย
ซึ่งเป็นการปิดโอกาสของผู้ที่เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุกในการสมัครเข้า
รับราชการ
๒) กลุ่มองค์กรที่ใช้พระร�ชบัญญัติ ระเบียบ หรือกฎ ที่กำ�หนดให้ก�รต้องคำ�พิพ�กษ�ถึงที่สุด
ให้จำ�คุก เป็นลักษณะต้องห้�มในก�รรับร�ชก�ร แต่มีข้อยกเว้นให้หน่วยง�นส�ม�รถกำ�หนดหลักเกณฑ์
เฉพ�ะหรือใช้ดุลพินิจในก�รรับสมัครบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้�มเข้�รับร�ชก�รได้ เช่น พระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราช-
บัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๔ พระราชบัญญัติ
ตำารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ พระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นต้น ซึ่งกลุ่มองค์กรที่ใช้พระราชบัญญัติ
ที่มีการกำาหนดยกเว้นไว้ สรุปได้ ดังนี้
๒.๑) ข้าราชการรัฐสภา ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการรัฐสภาสามัญต้องมี
คุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยเป็นผู้เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุก
เว้นแต่เป็นโทษสำาหรับความผิดที่ได้กระทำาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หากผู้ที่จะเข้ารับราชการ
เป็นข้าราชการรัฐสภาสามัญมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ก.ร. อาจพิจารณายกเว้นให้เข้ารับราชการได้
ซึ่งต้องเป็นไปตามมติของ ก.ร. และในการยกเว้นดังกล่าวต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสี่ในห้าของ
จำานวนกรรมการที่มาประชุม การลงมติให้กระทำาโดยลับ โดยเป็นไปตามระเบียบที่ ก.ร. กำาหนด ซึ่งจะ
ยกเว้นให้เป็นการเฉพาะราย หรือจะประกาศยกเว้นให้เป็นการทั่วไปก็ได้
ในทางปฏิบัติที่ผ่านมา ก.ร. ยังไม่เคยได้รับคำาขอให้พิจารณายกเว้นคุณสมบัติ
ในลักษณะดังกล่าว และ ก.ร. ยังมิได้กำาหนดหลักเกณฑ์หรือแนวทางการพิจารณาไว้ ส่วนกรณีที่ผู้สมัคร
เข้ารับการแข่งขันเป็นข้าราชการรัฐสภาสามัญที่ได้รับการอภัยโทษ หรือได้รับการล้างมลทินในวาระพิเศษ
ซึ่งถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ หากเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะ
ต้องห้ามตามมาตรา ๓๗ ในการพิจารณาให้เป็นไปตามหลักสูตรวิธีดำาเนินการเกี่ยวกับการสอบแข่งขัน
เกณฑ์การตัดสิน การขึ้นบัญชี และการยกเลิกบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ซึ่งในการพิจารณาความเหมาะสม
กับตำาแหน่งจะมีการพิจารณาประวัติส่วนตัว ประวัติการทำางาน รวมถึงจริยธรรมและคุณธรรมด้วย
๒.๒) ข้าราชการพลเรือน ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนต้องมีคุณสมบัติ
และไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยเป็นผู้เคยต้องรับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุกเพราะกระทำา
ความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำาหรับความผิดที่ได้กระทำาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
หากผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ก.พ. อาจพิจารณายกเว้น
20
สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำาคุกถูกจำากัดสิทธิในการเข้ารับราชการ