Page 19 - สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำคุกถูกจำกัดสิทธิในการเข้ารับราชการ
P. 19
๕. คว�มเห็นคณะอนุกรรมก�รตรวจสอบก�รละเมิดสิทธิมนุษยชนด้�นกฎหม�ย
และก�รปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
๕.๑ ความเห็นคณะอนุกรรมการฯ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๐ วรรคสี่ วางหลักไว้ว่า
มาตรการที่รัฐกำาหนดขึ้น เพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้
เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ซึ่งสอดคล้องกับมาตรา ๓๑
กรณีที่บุคคลผู้เป็นทหาร ตำารวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และพนักงานหรือลูกจ้างขององค์กร
ของรัฐ ย่อมมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่ที่จำากัดไว้ในกฎหมาย
หรือกฎที่ออกโดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเมือง
สมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรม ซึ่งในการกำาหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเป็นการกำาหนด
เงื่อนไขในเรื่องของสมรรถภาพของบุคคลที่จะเข้ารับราชการ ที่แต่ละองค์กรสามารถกำาหนดได้ตาม
ความเหมาะสม และต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๕๐ และพันธกรณีระหว่างประเทศ
ในเรื่องของการประกอบอาชีพ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
มาตรา ๔๓ วางหลักไว้ว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพ และ
การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม ซึ่งการจำากัดเสรีภาพจะกระทำามิได้ เว้นแต่อาศัยอำานาจตาม
บทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของรัฐหรือเศรษฐกิจของประเทศ
การคุ้มครองประชาชนในด้านสาธารณูปโภค การรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ
ประชาชน การจัดระเบียบการประกอบอาชีพ การคุ้มครองผู้บริโภค การผังเมือง การรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม สวัสดิภาพของประชาชน หรือเพื่อป้องกันการผูกขาดหรือขจัด
ความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ซึ่งสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม
และวัฒนธรรม ภาค ๓ ข้อ ๖ ที่วางหลักไว้ว่า รัฐต้องรับรองสิทธิในการทำางาน ซึ่งรวมทั้งสิทธิของ
ทุกคนในโอกาสที่จะหาเลี้ยงชีพโดยงานซึ่งตนเลือกหรือรับอย่างเสรี และจะดำาเนินขั้นตอนที่เหมาะสม
โดยรวมถึง การให้คำาแนะนำาทางเทคนิคและวิชาชีพและโครงการฝึกอบรม นโยบาย และเทคนิคที่จะ
ทำาให้บรรลุผลในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อย่างสม่ำาเสมอ และการจ้างงาน
อย่างบริบูรณ์ และเป็นประโยชน์ภายใต้เงื่อนไขทั้งหลายที่เป็นการปกป้องเสรีภาพขั้นพื้นฐานทาง
การเมืองและทางเศรษฐกิจของปัจเจกบุคคล
คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาข้อเท็จจริงจากคำาร้องและคำาชี้แจงของผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง และ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว มีความเห็นตามประเด็นการตรวจสอบ ดังนี้
การกำาหนดลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการของรัฐสภา ตามมาตรา ๓๗ แห่ง
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ กระทบต่อสิทธิของผู้ร้องหรือไม่ อย่างไร
คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ว่า มาตรา ๓๗ ข. (๗) จะกำาหนดคุณสมบัติ
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการรัฐสภาสามัญว่า จะต้องไม่เป็นผู้เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษา
18
สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำาคุกถูกจำากัดสิทธิในการเข้ารับราชการ