Page 57 - รายงานสรุปโครงการประชุมวิชาการระดับชาติ ชุมคน ชุมชน คนใต้ ครั้งที่ 3
P. 57
๕๖
เรื่องทั้งหมดตองการการพัฒนาแกนน า เพิ่มศักยภาพในการจัดการครอบครัวใหกับกลุมสตรี ตองสรางความ
มั่นใจที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดและตอสูกับปใญหา ขณะที่รัฐใชความกลัวเป็นเครื่องมือจัดการคน ชุมชนตองใชความกลัว
เป็นโอกาสในการยืนหยัดตอสูกับปใญหา ตองมีกระบวนการจัดการกลุมและเครือขาย ทั้งดานทุน การศึกษา สราง
ความเขมแข็ง และการรับมือภัยพิบัติ พรอมกันไปกับการเคลื่อนไหวเพื่อปกปูองสิทธิ์ ที่กระทบจากแผนพัฒนา จาก
การจัดการที่ดิน และการรุกเขาของธุรกิจการทองเที่ยว ที่กระทบตอชาวเลโดยตรง
“ส าหรับการเคลื่อนไหวเชิงนโยบายของภาคใต้ ตอนนี้มีการน าเสนอเแผนพัฒนาภาคใต้ที่คนภาคใต้ต้องการ
การเสนอรูปแบบการจัดการการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของตัวเอง มีกองทุนพัฒนาสตรี การ
พัฒนาสร้างความมั่นคงความยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมบ้างแล้ว
ภายใตการขับเคลื่อนกิจกรรมทั้งหมด ประเด็นส าคัญอยูที่การพัฒนาศักยภาพของคน การเรียนรู
ประสบการณแทั้งดานลึก และดานกวางขามพื้นที่ ขามประเด็น ขามภาค”
อีกสวนที่ส าคัญคือ การจัดกระบวนการโตตอบของชุมชน การจัดการตนเองใหเป็นที่ปรากฏ ท าใหกิจกรรม
ตางๆ ในระดับพื้นที่มีความยั่งยืน มีการขับเคลื่อนเชิงรุกไปถึงท าเนียบรัฐบาล ไปถึงศูนยแกลางอ านาจ ซึ่งจะตองเพิ่ม
พื้นที่สื่อสารใหกับภาคพลเมือง ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับเครือขาย และระดับประเทศ
ส าหรับความกาวหนาของชุมชนที่เห็นชัดเจนคือรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่น าหนาสังคมไปแลว แตยังไม
แสดงออกมาใหเห็นชัดๆ เป็นการสรางความพรอมที่จะเผชิญหนากับเสรีอาเซียน ในมิติที่มากกวาเศรษฐกิจขณะที่
ศักยภาพดานการศึกษาของคนรุนใหมดีขึ้นอยางเห็นไดชัด มีรูปแบบการศึกษาหลายรูปแบบ ตั้งแตโรงเรียนตาดีกา
ปอเนาะ การจัดการศึกษาของรัฐ ความกาวหนาที่นาสนใจคือ การจัดการภัยพิบัติดวยตัวเองของประชาชนที่ตื่นตัว มี
การวางแผน มีการท าขอมูล จนสามารถจัดการตัวเองไดเรียบรอย และความกาวหนาในกลุมชาติพันธุแในมิติและ
ประเด็นตางๆ เชน ความมั่นคงในชีวิต การศึกษา และพัฒนาเยาวชน การพัฒนาฐานอาชีพ การดูแล
ทรัพยากรธรรมชาติ
ความกาวหนาที่เห็นไดชัดอีกอยางคือ การพัฒนาสตรีเขาสูมิติตางๆ โดยใชวัฒนธรรมการเลี้ยงลูก วัฒนธรรม
ความเป็นอยู วัฒนธรรมการท ามาหากิน วัฒนธรรมการใชชีวิตในครอบครัว วัฒนธรรมศาสนา เป็นเครื่องมือจัดตั้ง
เครือขายตางๆ สวรความกาวหนาอีกเรื่องคือ การใชจุดออนจากที่ถูกระแวง ไมไดรับการยอมรับ เป็นโอกาสในการ
สรางชุมชนศรัทธา จนเกิดการยอมรับในสังคมเพิ่มขึ้น สามารถสรางความสงบ สันติสุข สมานฉันทแ ไดอยางเป็น
รูปธรรมและเป็นกระบวนการ เปิดใหภาคีท าประโยชนแเพื่อสวนรวมรวมกันได
“รัฐต้องปรับวิธีคิดในการพัฒนา ด้วยการให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมจริงๆ รัฐต้องพร้อมที่จะรับข้อเสนอ
จากประชาชน รัฐต้องทบทวนและหยุดโครงการต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น และหันมาฟังประชาชน หยุด
สนับสนุนให้ประชาชนทะเลาะกันในชุมชน เพื่อผลักดันโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ รัฐต้องขยายเครือข่าย ดึงภาคส่วน
รายงานโครงการประชุมวิชาการระดับชาติ ชุมคน ชุมชน คนใต ครั้งที่ ๓ เสียงจากผูไรสิทธิชายแดนใต