Page 128 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 128
(Û) °√≥’ ‘∑∏‘∫ÿ§§≈·≈–∑√—æ¬å ‘𠇮â“Àπâ“∑’ËÕÿ∑¬“π·Ààß™“µ‘‰∑√‚¬§ ®—ßÀ«—¥
°“≠®π∫ÿ√’ π”°”≈—ß∂Õπ∑”≈“¬µâπ¬“ßæ“√“„π·ª≈ß∑’Ë¥‘𵑥°—∫‡¢µÕÿ∑¬“π·Ààß™“µ‘
‰∑√‚¬§ (‡≈¢§”√âÕß∑’Ë ıÒÙ/ÚıÙ¯ ๏ √“¬ß“πº≈°“√µ√«® Õ∫∑’Ë ÛÚ/Úıı)
ผูรองไดเขาอาศัยและทำประโยชนดาน ครอบครองพื้นที่ตามแบบแจงการใชที่ดินของ
การเกษตรในที่ดินหมูที่ ๕ ตำบลวังกระแจะ บุคคลในพื้นที่ปาไม (แบบ ทป.๔) ๑ แปลง
อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มาตั้งแตป เนื้อที่ประมาณ ๑๕๐ ไร ไดที่ดินมาโดยการ
พ.ศ.๒๕๑๒ ในบริเวณที่ทำกินเรื่อยมา จนในป จับจอง เขาทำประโยชนในที่ดินเมื่อป พ.ศ.๒๕๑๑
พ.ศ.๒๕๔๘ ผูรองไดเปลี่ยนจากการปลูกพืชไร โดยผูใหญบานหมูที่ ๕ เปนผูนำชุมชนรับรอง
มาปลูกยางพารารวมพื้นที่ ๔๘ ไร โดยมิไดมี ขอมูล เจาหนาที่สำรวจ ๔ นาย ระบุสภาพพื้นที่
เจตนาที่จะบุกรุกพื้นที่เขตปาอุทยานแหงชาติ โซนซี ชั้นลุมน้ำ ๓ ลักษณะภูมิประเทศที่ราบ
ไทรโยค ตอมามีเจาหนาที่อุทยานแหงชาติ ความลาดชัน ๗ องศา สรุปความเห็นของเจาหนาที่
ไทรโยค นำเจาหนาที่ประมาณ ๕๐ คนพรอม วามีการทำกินตอเนื่อง เห็นควรนำเสนอเขา
อาวุธปนครบมือเขามาถอนทำลายตนยางพารา กิจกรรมเรงรัดพิสูจนสิทธิ จนป พ.ศ.๒๕๔๘
ของผูรอง ไดถอนตนยางพาราของผูรองทั้งหมด ผูรองไดเปลี่ยนแปลงพืชที่ปลูกเดิมจากสวน
๔๘ ไร และไดรับความเดือดรอนจากการจับกุม มะนาวและพืชอื่น มาปลูกยางพาราแทนในที่
ของเจาหนาที่อุทยานฯ นอกจากนั้นผูรองเห็นวา ครอบครองในพื้นที่ประมาณ ๕๐ ไร และเปนเหตุ
การกระทำของเจาหนาที่อุทยานฯ เปนการเลือก ใหเจาหนาที่อุทยานแหงชาติไทรโยคแจงจับกุม
ปฏิบัติ เนื่องจากมีราษฎรอีกหลายรายครอบ ๒. การรื้อถอนทำลายตนยางของเจาหนาที่
ครองที่ดินและทำประโยชนในที่ดินบริเวณ อุทยานแหงชาติ เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๔๘
เดียวกันและใกลเคียงกับผูรอง แตเจาหนาที่มิได เจาหนาที่อุทยานฯ นำโดยนายสวัสดิ์ อั้นเตง
ดำเนินการใดตอผูอื่น หัวหนาอุทยานแหงชาติไทรโยค นำกำลังไมนอย
กวา ๕๐ คนพรอมอาวุธปนยาวหลายกระบอก
§”™’È·®ß®“°ºŸâ√âÕß (ตามหลักฐานภาพถาย) ไดเขามายังบริเวณที่
๑. ผูรองและครอบครัวไดไปตั้งภูมิลำเนา ปลูกยางพาราในแปลงที่ติดกับบานพักอาศัย
และเพาะปลูกพืชไรตั้งแตป พ.ศ.๒๕๑๒ และ พื้นที่ รวม ๔๘ ไร เจาหนาที่บางคนไดแสดง
กระทรวงมหาดไทยไดประกาศยกฐานะชุมชนที่ กิริยาและกระทำในลักษณะขมขู และไดถอนตน
พวกผูรองอาศัยขึ้นเปนหมูบาน มีผูใหญบาน ยางพาราที่ผูรองไดปลูกไวในพื้นที่ ๔๘ ไร ไป
ปกครองมาไมนอยกวา ๓๐ ป ในป พ.ศ.๒๕๕๐ ทั้งหมดผูรองจึงไดไปแจงความไวที่สถานีตำรวจ
ผูรองไดปลูกพืชไรและพืชอื่นในแปลงติดหลัง ภูธรอำเภอไทรโยค เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม
บานพื้นที่ประมาณ ๕๐ ไร ตอมาป พ.ศ.๒๕๔๑ ๒๕๔๘ ดวย ตอมาวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๘
ผูรองไดแบงที่ดินใหบุตรรวม ๖ คน บุตรชายได เจาหนาที่อุทยานฯ นำคนเขาไปปลูกปาเฉลิม
เขามาทำกิน แตตองทำงานรับจางดวยจึงมีที่ดิน พระเกียรติในพื้นที่ดังกลาว ปจจุบันสวนปาถูก
รกรางบางสวน และเมื่อมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ ปลอยใหเสื่อมโทรมไมมีผูดูแลรักษา และผูรอง ก็
วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ผูรองจึงไดแจงการ ไมกลาเขาไปเชนกัน
เสียงจากประชาชน
“ที่ดินในเขตปาและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและปา” 127