Page 98 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 98

๒


                         ข้อ ๖ อนุกรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเป็นกลาง ไม่มีส่วนได้เสียทั้งทางตรงและ

                  ทางอ้อม รวมทั้งต้องค านึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชนประกอบด้วย ทั้งนี้ ให้น า
                  ข้อก าหนดทางจริยธรรมข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างส านักงาน มาใช้บังคับกับอนุกรรมการ

                  โดยอนุโลม

                         ข้อ ๗ การประชุมของคณะอนุกรรมการตามระเบียบนี้ ให้น าระเบียบคณะกรรมการว่าด้วยการนั้น

                  มาใช้บังคับโดยอนุโลม

                                                            หมวด ๒

                                        หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง และการพ้นจากต าแหน่ง


                         ข้อ ๘ ในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบนี้ ต้องก าหนดหน้าที่
                  เป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และระยะเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไว้ในค าสั่งแต่งตั้ง

                  ให้ชัดเจน
                         ให้มีประธานและอนุกรรมการรวมกันในแต่ละคณะไม่เกินเจ็ดคน เว้นแต่คณะกรรมการจะมีมติ

                  เป็นอย่างอื่น

                         ข้อ ๙ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกรณีไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ตามข้อ ๕ ต้องเป็นการแต่งตั้งในเรื่อง

                  ที่มีความจ าเป็นต้องได้ข้อมูลหรือความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิอย่างหลากหลายรอบด้าน
                  และจ าเป็นต้องมีการแก้ไขหรือป้องกันปัญหาอย่างเป็นระบบ

                         ข้อ ๑๐ อนุกรรมการต้องมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือมีประสบการณ์
                  มาไม่น้อยกว่าห้าปี ในด้านที่ต้องให้ข้อมูลหรือศึกษาตามข้อ ๙ รวมทั้งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
                  ดังต่อไปนี้

                         (๑) มีสัญชาติไทย
                         (๒) มีอายุไม่ต่ ากว่ายี่สิบห้าปี

                         (๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
                         (๔) ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป เว้นแต่ ได้พ้นโทษมาแล้ว
                  เกินห้าปีนับถึงวันได้รับการเสนอชื่อ หรือเป็นความผิดอันได้กระท าโดยประมาท

                         (๕) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
                  หรือราชการส่วนท้องถิ่น เพราะการกระท าผิดวินัยอย่างร้ายแรง

                         (๖) ไม่เป็นบุคคลที่มีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้ง
                         (๗) ไม่เคยต้องค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน เพราะมีทรัพย์สิน
                  เพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือร่ ารวยผิดปกติ

                         (๘) ไม่เคยมีประวัติการถูกชี้มูลว่าเป็นผู้กระท าผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระท าความผิดต่อ
                  ต าแหน่งหน้าที่ราชการหรือกระท าความผิดต่อต าแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม เว้นแต่ต่อมาภายหลัง

                  ศาลวินิจฉัยว่าผู้นั้นมิได้กระท าความผิดตามที่ถูกชี้มูล
                         (๙) ไม่เป็นบุคคลผู้มีความบกพร่องทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
                        (๑๐) ไม่เป็นบุคคลติดยาเสพติดให้โทษ

                         กรณีตาม (๑) (๒) และ (๔) คณะกรรมการอาจมีมติยกเว้นได้


                                                                                                                  92
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103