Page 12 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 12
10
รับเข้าท�างาน ซึ่งมีการร้องเรียนมายัง กสม. ที่ต้องได้รับ สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ
การแก้ไขอย่างจริงจัง จึงควรมีการเร่งเสนอร่าง พ.ร.บ. และสิ่งแวดล้อม
ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล พ.ศ. .... นอกจากนี้ ส�าหรับปี 2565 รัฐบาลได้ด�าเนินการแก้ไขปัญหา
กลุ่มแรงงานข้ามชาติยังคงมีปัญหาไม่มีสิทธิเลือกตั้ง การถือครองที่ดินและความขัดแย้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
คณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งต้องปรับปรุงแก้ไขระเบียบ โดยการยกระดับโฉนดชุมชนเพื่อจัดสรรที่ท�ากินให้แก่
ต่อไป ประชาชน รวมทั้งปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ
สิทธิในสุขภาพ รวมถึงความพยายามเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนที่ได้รับ
ผลกระทบจากนโยบายของรัฐเกี่ยวกับการอนุรักษ์และ
สถานการณ์สิทธิในสุขภาพที่ส�าคัญในปี 2565
คือ ปัญหาการไม่มีหลักประกันสุขภาพของกลุ่มแรงงาน จัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อมุ่งไปสู่การนิรโทษกรรม
ข้ามชาติและเด็กผู้ติดตามจ�านวนมาก ในส่วนของปัญหา อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่าง
สุขภาพจิต รัฐได้เพิ่มช่องทางในการดูแลผู้ที่มีปัญหา เขตป่าอนุรักษ์กับที่อยู่อาศัยและที่ดินท�ากินของประชาชน
สุขภาพจิตและน�าเทคโนโลยีมาใช้ในการให้ค�าปรึกษา และการจัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชนตามนโยบายของ คทช.
อย่างไรก็ตาม อัตราการฆ่าตัวตายส�าเร็จยังคงเพิ่มสูงขึ้น ยังมีความล่าช้า และการจัดท�ากฎหมายล�าดับรองของ
ทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนมีความเสี่ยงในการ กฎหมายเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ
ฆ่าตัวตายสูง ในส่วนของสถานการณ์การใช้กัญชา สิ่งแวดล้อมที่ยังคงไม่มีความก้าวหน้าจากปี 2564
ของประชาชน มีรายงานผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจ การด�าเนินโครงการพัฒนาของรัฐหรือของเอกชน
เกี่ยวเนื่องจากการใช้กัญชาออกมาเป็นระยะ และปัญหา ที่รัฐเป็นผู้อนุญาต ยังมีปัญหาไม่สามารถสร้างหลักประกัน
เด็กและเยาวชนใช้กัญชา แม้จะมีกฎหมายเพื่อคุ้มครอง ให้กับบุคคลหรือชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบด้าน
สุขภาพของประชาชนหลายฉบับ แต่ยังไม่มีกลไกบังคับใช้ สิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการมีส่วนร่วม
ที่ชัดเจนและยังไม่ครอบคลุมเพียงพอที่จะสามารถป้องกัน
ผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิผล ของประชาชนและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ส�าคัญ
เพื่อประกอบการรับฟังความคิดเห็นอย่างเพียงพอและ
สิทธิด้านการศึกษา ครบถ้วน กสม. จึงมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานของรัฐหรือ
ในปี 2565 รัฐบาลมีความพยายามในการจัดการ เอกชนที่ด�าเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ต้องค�านึงถึง
เรียนการสอนแบบ on-site ทั้งได้มีการจัดหาวัคซีนให้แก่ การมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ให้ความส�าคัญกับการเปิดเผย
เด็กนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาอย่างทั่วถึง รวมถึง ข้อมูลและรับฟังความคิดเห็น รวมทั้งต้องจัดท�ามาตรการ
มีความคืบหน้าในการติดตามนักเรียนที่หลุดจากระบบ ป้องกันแก้ไขหรือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว
การศึกษา และการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อ และเป็นธรรม
สร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล�้าทางการศึกษา
ผ่านกลไกของ กสศ. และ กยศ. อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
ที่น่าห่วงกังวลคือปัญหาการสูญเสียการเรียนรู้ของ ในภาพรวมของปี 2565 รัฐบาลและหน่วยงาน
เด็กปฐมวัย และเด็กนักเรียนที่หลุดจากการศึกษาและ ที่เกี่ยวข้องพยายามขับเคลื่อนแผน NAP เพื่อส่งเสริม
ไม่สามารถติดตามให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ ซึ่งเป็น การประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการ
ความท้าทายของรัฐในการจัดการกับปัญหาดังกล่าวเพื่อ ชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
ให้เด็กได้รับการศึกษาและได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ แต่ยังมีข้อท้าทายด้านการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ
ที่เหมาะสมกับวัย เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนในวงกว้าง
001-234 V9 CS6.indd 10 3/14/23 8:40 PM

