Page 185 - รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต
P. 185
อนุศาสนาจารย์กับนักโทษประหารชีวิต
โดยปกติแล้ว นักโทษประหารชีวิตจะใช้ชีวิตอยู่ภายในบริเวณแดนที่กำาหนด
ทั้งนี้ การประกอบคุณความดีของผู้ต้องขัง จะมีผลต่อการได้รับพระราชทาน ไม่สามารถออกมาในพื้นที่รวมภายนอกทั่วไปได้เฉกเช่นผู้ต้องขังโทษอื่นๆ ซึ่งหากต้อง
อภัยโทษด้วย ซึ่งในการอบรมธรรมะที่ดำาเนินการโดยอนุศาสนาจารย์นั้น ถือเป็น ออกมานอกแดนต้องมีการใส่ตรวนออกมาด้วย
ส่วนหนึ่งที่ผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาพุทธจะได้ประโยชน์ในส่วนนี้ การปฏิบัติงานของอนุศาสนาจารย์กับนักโทษประหารชีวิตนั้น จะเข้าไปทำา
นอกจากนี้ หากผู้ต้องขังมีความประสงค์จะเปลี่ยนศาสนา อนุศาสนาจารย์ กิจกรรมในแดนเดือนละ ๑ ครั้ง โดยการพูดคุยผ่านกรงเหล็กตามห้องต่างๆ ของ
จะอำานวยความสะดวกในการประกอบพิธีให้ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ต้องขังประสงค์ นักโทษประหาร โดยใช้เวลาในแต่ละครั้งประมาณ ๓๐ นาที ซึ่งประเด็นที่อนุศาสนาจารย์
เปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาคริสต์ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากจะได้รับการดูแล ได้พูดคุยกับนักโทษประหารชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการทำาสมาธิ การทำาจิตใจ
จากบาทหลวง เช่น การได้รับของแจกตามเทศกาลต่างๆ ให้สงบและการยอมรับผลของการกระทำา ประเด็นที่นักโทษประหารชีวิตตั้งคำาถาม
กับอนุศาสนาจารย์ส่วนใหญ่ คือ เรื่องการนั่งสมาธิ
“ถ้าเลือกที่จะเปลี่ยนศาสนาก็จะมีพิธีกรรมให้...
ก็มีคนเปลี่ยนกันเยอะ เพราะคริสต์มีการดูแลจากบาทหลวง
ตามเทศกาลต่างๆ ก็มีของมาแจก” การจัดการของอนุศาสนาจารย์
อดีตอนุศาสนาจารย์, สัมภาษณ์, ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๒
เมื่อมีการบังคับโทษประหารชีวิต
เมื่อมีการบังคับโทษประหารชีวิต อนุศาสนาจารย์จะได้รับแจ้งเพื่อเตรียมการ
อย่างไรก็ตามอนุศาสนาจารย์จะไม่ได้เข้าเวรในแดนต่างๆ เนื่องจากป้องกัน โดยต้องรับผิดชอบในการนิมนต์พระ และอยู่ในกระบวนการที่มีการบังคับโทษ โดยที่
ความใกล้ชิดสนิทสนม ที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือเมื่ออนุศาสนาจารย์ต้องเข้าไป อนุศาสนาจารย์เล่าประสบการณ์ว่า ในอดีตที่มีการประหารชีวิตนักโทษประหาร
ทำาการสอนหรือจัดกิจกรรม
รายหนึ่ง เมื่อมีการแจ้งให้บังคับโทษมาแล้ว จะมีการแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยืนยันตัวบุคคล
ว่าจะไม่ใช่การประหารผิดตัว และจะมีการแจ้งให้อนุศาสนาจารย์นิมนต์พระ เพื่อเทศน์
“มีหนังสือขอความร่วมมือไม่ให้จัดให้เข้าเวร ก่อนการประหาร และการเจริญมรณานุสติ
เพื่อไม่ให้มีความสนิทสนม
เพราะเวลาเข้าไปสอนแล้วจะไม่เชื่อถือกัน” จากนั้นเมื่อทำาการเบิกตัวนักโทษประหารมาแล้ว จะนำาตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ
อดีตอนุศาสนาจารย์, สัมภาษณ์, ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๒ ให้นักโทษประหารเขียนจดหมายสั่งเสีย/พินัยกรรม และสอบถามอาหารมื้อสุดท้าย
ที่นักโทษประหารต้องการทาน โดยส่วนใหญ่หากสามารถจัดหาให้ได้ เจ้าหน้าที่
จะจัดหามาให้ และให้รับประทานอาหารนั้น จากนั้นจึงมีการอ่านฎีกาให้นักโทษ
ประหารฟัง และจัดให้พระเทศน์ และนำาตัวไปประหาร
182 รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต รายงานผลการศึกษาข้อมูลนักโทษประหารชีวิต 183
