Page 9 - รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
P. 9
08
สารจากประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ซึ่งมีภารกิจหลักที่ส�าคัญ 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านที่หนึ่ง การตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิด
สิทธิมนุษยชน ด้านที่สอง การจัดท�ารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ ด้านที่สาม
การเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ด้านที่สี่ การชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริง
ที่ถูกต้องในกรณีที่มีการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม และ
ด้านที่ห้า การสร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความส�าคัญของสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติได้วางยุทธศาสตร์ที่มุ่งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมเกิดการเคารพสิทธิมนุษยชน เน้นการด�าเนินงานที่ก่อให้
เกิดการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ ประสานการท�างานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นส�าคัญ ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ให้ความส�าคัญในการ
ขับเคลื่อนงานตามหน้าที่ โดยยึดหลักการด�าเนินงานตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย หลักคุณธรรม จริยธรรม และให้ความ
เป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง
ตราบเท่าปัจจุบัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มก�าลังความสามารถ
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและจัดท�าข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการป้องกัน
หรือแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดจนแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ส�าคัญหลายกรณี
อาทิ ข้อเสนอแนะในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เรื่อง หลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาส�าหรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย และ
คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาส�าหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวข้อง
กับการยุติการตั้งครรภ์เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ข้อเสนอแนะกรณีปัญหาพนักงานจ้างเหมาบริการในหน่วยงาน
ภาครัฐไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน ข้อเสนอแนะกรณีการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะของคนพิการ กรณี
การด�าเนินโครงการของภาครัฐที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือกับ 1) สถาบันการศึกษาในภูมิภาคในรูปแบบของศูนย์ศึกษาและประสานงาน
ด้านสิทธิมนุษยชน มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยด�าเนินโครงการขับเคลื่อน
ภารกิจด้านการส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนของศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนในภูมิภาค ผ่านโครงการ
เยาวชนคนรุ่นใหม่ใส่ใจยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเท่าทันเรื่อง
สิทธิมนุษยชนโดยค�านึงถึงบริบทของสังคมไทยและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ซึ่งจะช่วยให้สังคมรู้จักเคารพสิทธิและหน้าที่ ด�ารงชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเอื้ออาทร ลดข้อพิพาท และข้อขัดแย้งต่าง ๆ
ส่งผลต่อสังคมที่มีความปลอดภัย และสงบสุข และมีโครงการความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
กับส�านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อจัดท�า “คู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาส�าหรับ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน” และจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการวิทยากรกระบวนการ (Training of Trainers) ด้านสิทธิมนุษยชนศึกษา
เพื่อมุ่งหวังให้ครูผู้สอนในโรงเรียนทั่วประเทศ ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้าน
สิทธิมนุษยชน 2) สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศต่าง ๆ ตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศและในภูมิภาค
เอเชีย-แปซิฟิก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อรับทราบพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนที่ส�าคัญและแลกเปลี่ยนประสบการณ์
และแนวทางการด�าเนินงานระหว่างกัน การเข้าร่วมประชุมกับกลไกของสหประชาชาติเพื่อน�าเสนอการด�าเนินงานของ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนและฐานทรัพยากรธรรมชาติ ผลกระทบจาก