Page 7 - หลักสูตรธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนสำหรับรัฐวิสาหกิจ
P. 7

2

               1
 รำยได้ด้ให้แก่ประเทศรวมประมำณ 2.7 ล้ำนล้ำนบำท และท ำก ำได้รได้ด้รวมประมำณ 2.3 แสนล้ำนบำท  อันเป็นตัวเลขมหำศำลในระบบเศรษฐกิจ กำรด ำเนินงำนของรัฐวิสำหกิจจึง
 เป็นหนึ่งในปัจจัยส ำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในภำพรวมของประเทศได้ทย  ขณะที่ในช่วงหลำยปีที่ผ่ำนมำสถำนกำรณ์ด้ำนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของประเทศได้ทยเป็นที่จับตำมอง

 และได้ด้สร้ำงแรงกระเพื่อมต่อศักยภำพและโอกำสในกำรแข่งขันทำงเศรษฐกิจของประเทศได้ทยในเวทีโลกมำกยิ่งขึ้น เนื่องจำกกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงเป็นพลวัตรในประเด็นบรรษัท
 ข้ำมชำติ (Transnational Corporations – TNCs) ที่มีรูปแบบในกำรประกอบธุรกิจอันหลำกหลำย เช่น บริษัทย่อย (Subsidiaries) กำรร่วมทุน (joint ventures) กำรรับเหมำ

 (Contractors) กำรใช้ตัวแทนจ ำหน่ำย (suppliers) ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดห่วงโซ่อุปทำน (supply chain) จ ำนวนมำก อันมีโอกำสต่อกำรท ำธุรกิจที่เสี่ยงต่อกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน
 ทั้งในประเด็นกำรจ้ำงงำน สิ่งแวดล้อม และกำรรับผิดชอบต่อสังคม ฯลฯ  ดังนั้นกำรบริหำรจัดกำรรัฐวิสำหกิจที่ดีและสร้ำงควำมชัดเจนตั้งแต่ระดับนโยบำยจนถึงแนวทำงปฏิบัติ
 ขององค์กรโดยค ำนึงถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนดังกล่ำวย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่ำงยิ่งขณะที่กำรบริหำรจัดกำรรัฐวิสำหกิจที่ได้ม่มีประสิทธิภำพและสุ่มเสี่ยงต่อกำร

 ละเมิดสิทธิมนุษยชน ย่อมก่อให้เกิดควำมเสียหำยในวงกว้ำงอย่ำงร้ำยแรงได้ด้เช่นกัน
       ดังนั้น กำรขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนตำมหลักกำรชี้แนะว่ำด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชำชำติ ในภำครัฐวิสำหกิจจึงเป็นแนวทำงส ำคัญที่จะช่วยป้องกัน

 แก้ได้ข และบรรเทำผลกระทบด้ำนสิทธิมนุษยชนอันอำจเกิดจำกกำรประกอบธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของประชำชนในวงกว้ำง ทั้งยังส่งผลให้เกิดควำมเชื่อมั่นต่อ
 กำรค้ำและกำรลงทุนในระดับประเทศและภูมิภำค และเป็นส่วนส ำคัญในกำรส่งเสริมกำรค้ำและกำรพัฒนำทั้งในระดับประเทศและระหว่ำงประเทศให้เป็นได้ปอย่ำงยั่งยืน ดังนั้น

 หลักสูตรกำรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติกำรธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนส ำหรับรัฐวิสำหกิจ จึงถือเป็นกำรเผยแพร่ควำมรู้ ควำมเข้ำใจในด้ำน กำรส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เสริมสร้ำงและพัฒนำ
 กระบวนกำรเรียนรู้และควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนตำมแนวทำงกำรพัฒนำที่ยั่งยืนและหลักกำรชี้แนะของสหประชำชำติว่ำด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน

 ให้แก่บุคลำกรของรัฐวิสำหกิจได้ทยต่อได้ป

     2. วัตถุประสงค์
          2.1  เพื่อส่งเสริมให้รัฐวิสำหกิจในประเทศได้ทยเห็นประโยชน์ ตระหนักถึงควำมส ำคัญ และเป็นต้นแบบในกำรด ำเนินธุรกิจที่เคำรพสิทธิมนุษยชน

 2.2  เพื่อให้ควำมรู้แก่รัฐวิสำหกิจในประเทศได้ทยในวิธีกำรน ำหลักกำรชี้แนะเรื่องธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของสหประชำชำติ ได้ปด ำเนินกำรให้เกิดผลในทำงปฏิบัติ
 2.3  เพื่อเสริมสร้ำงควำมรู้เกี่ยวกับกำรจัดท ำแนวนโยบำยด้ำนสิทธิมนุษยชน กำรตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่ำงรอบด้ำน (Human Rights Due Diligence) และ
 หลักกำรเยียวยำในกำรท ำธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และกำรน ำได้ปปรับประยุกต์ใช้ในองค์กรให้แก่หน่วยรัฐวิสำหกิจที่เข้ำอบรม
 2.4  เพื่อให้เกิดกำรแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ แนวทำงและองค์ควำมรู้ที่เกี่ยวข้องกำรท ำงำนด้ำนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในภำครัฐวิสำหกิจ
 2.5  เพื่อให้เกิดแนวทำงกำรสร้ำงเครือข่ำยรัฐวิสำหกิจต้นแบบของประเทศได้ทยในกำรท ำธุรกิจที่เคำรพสิทธิมนุษยชน ซึ่งสำมำรถติดตำมและประเมินผลตลอดจนมี

 กำรพัฒนำแนวทำง องค์ควำมรู้ที่เกี่ยวข้องกำรท ำงำนด้ำนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนร่วมกันอย่ำงเป็นระบบ


 1  ส ำนักงำนคณะกรรมกำรนโยบำยรัฐวิสำหกิจ, กำรพัฒนำและกำรก ำกับดูแลรัฐวิสำหกิจ, http://www.sepo.go.th/content/67
                                               หลักสูตรธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนส ำหรับรัฐวิสำหกิจ
                                             โดย คณะท ำงำนด้ำนส่งเสริมกำรเคำรพสิทธิมนุษยชน
                                  คณะท ำงำนด้ำนขับเคลื่อนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนและกำรพัฒนำที่ยั่งยืน
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12